พระนารายณ์ทรงครุฑ สูง 5 นิ้ว แร่น้ำพี้
โดยการนำพระหัตถ์ซ้ายมาลูบพระหัตถ์ขวา จนบังเกิดเป็นเทพขึ้นมาองค์ชื่อ พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ พร้อมกับทรงมอบหมายหน้าที่ให้เป็นเทพผู้ทำหน้าที่บริหารและคุ้มครองโลก รวมทั้งปราบปรามผู้สร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์ และชาวสวรรค์
พระนารายณ์ มีกายเป็นสีดอกตะแบก มี ๔ กร ถือศัตราวุธต่างๆ กัน คือ คทา ตรี จักร สังข์ ทรงมงกุฎชัย ประทับอยู่กลางเกษียรสมุทร บนหลังพญานาค ชื่อ อันตนาคราช และทรงใช้ ครุฑ เป็นพาหนะ มีพระมเหสีชื่อ พระลักษมี ** ตามคัมภีร์ยังกล่าวด้วยว่า พระนารายณ์ จะอวตารลงมาเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์ ตามคำสั่งของ พระศิวะ หรือการอัญเชิญของหมู่เทวดา และมนุษย์ การอวตารของ พระนารายณ์ เพื่อมาช่วยมนุษยโลกมีทั้งหมด ๑๐ ปาง และหนึ่งในนั้นก็คือ การอวตารลงมาเป็น พระราม ในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ นอกจากนี้คนไทยยังมีความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ ก็เป็นเทพอวตารพระองค์หนึ่งของ พระนารายณ์ เช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่า เวลา "ในหลวง" เสด็จฯ ณ ที่ใด จะต้องมีการอัญเชิญ ธงครุฑ ไปด้วย หรือหากประทับ ณ ที่ใดก็จะมี ธงครุฑ ปรากฏอยู่ ณ ที่นั้นเสมอ
เรื่องของ พระนารายณ์ทรงครุฑ จึงเป็นความเชื่อของพราหมณ์มาแต่โบราณกาล นอกจากเมืองไทยแล้ว ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีความเชื่อในเรื่องนี้ เพราะอินโดนีเซียเคยนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน ชาวอินโดนีเซีย เรียก ครุฑ ว่า "การูดา" (Garuda) และจะใช้รูป "การูดา" เป็นตราสัญลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งมีรูปเคารพ พระนารายณ์ทรงครุฑ ปรากฏอยู่ทั่วประเทศ
พระนารายณ์ทรงครุฑประทับพระราหู และพญายันต์ สุริยประภา- จันทรประภา ซึ่งให้คุณทางด้านโชคลาภ ค้าขาย และอำนาจเดชะบารมี ให้ท่องภาวนาคาถานี้อยู่เสมอ ครบ 12 จบ ตามกำลังแห่งพระราหู ผู้ดูแลทรัพย์สินเงิน-ทอง แล้วอธิษฐานขอให้สิ่งที่ต้องการ
เอกะจักขุ นาฬิเกฬา สุริยะประภา ราหูคาหา สัตตะรัตนสัมปันโณ มณีโชติ ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ
สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา
เอกะจักขุ นาฬิเกฬา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะรัตนสัมปันโณ มณีโชติ ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ
สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา
โดย ท่านเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร
1. หินเพชรเงินทองนาค ความเชื่อให้โชคลาภร่ำรวยเงินทอง
2. ไม้พญางิ้วดำ ความเชื่อเด่นทางด้านมหาอุดคงกระพัน คลาดแคล้วโชคลาภเมตตามหานิยมป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ