ไม้เท้างู แกะสลัก ปลุกเสกโดยหลวงปู่แดง





ขณะนี้หลวงปู่แดงท่านอาพาธ ปวดเอวนั่งนานไม่ได้ ต้องเอนหลังบนที่นอนปรับเอนได้ ท่านกรุณาช่วยทำการปลุกเสก และเพ่งจิตให้นานราวๆครึ่งชั่วโมง ขณะนี้หลวงปู่แดงท่านอายุได้ 96 แล้ว

เอสคูลาปิอุสผู้นี้มีประวัติตามนิยายของกรีกโบราณว่าคนเลี้ยงแพะได้ไปพบทารกคนหนึ่งนอนร้องไห้อยู่บนภูเขา โดยมีแพะตัวหนึ่งเอานมของมันให้เด็กดูดกิน คนเลี้ยงแพะจึงเข้าไปอุ้ม ก็เห็นรัศมีเกิดขึ้นรอบ ๆ ศีระเด็กเป็นที่น่าอัศจรรย์คนเลี้ยงแพะก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของเทพเจ้า และความจริงนั้นก็เป็นบุตรของเทพเจ้าจริง ๆ คือเป็นบุตรของเทพอพอลโล (Apollo) กับนางโคโรนิส (Coronis) แต่เทพอพอลโลทราบว่านางมีชู้จึงยิงด้วยธนู แล้วผ่าเอาทารกในครรภ์ของนางโคโรนิสไปฝากคิรอน (Chiron) ไว้ ต่อมาเด็กคนนี้มีชื่อว่า เอสคูลาปิอุส
เอสคูลาปิอุสได้อยู่กับคิรอน ซึ่งเป็นนักรบมีร่างประหลาด คือ มีร่างครึ่งม้าครึ่งคน และได้ช่วยคิรอนเลี้ยงแพะเลี้ยงแกะ คิรอนก็ใด้สั่งสนอนเอสคูลาปิอุสให้รู้จักสรรพคุณของต้นหญ้าหรือสมุนไพรต่าง ๆ มีความรู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคบางแห่งว่าเอสคูลาปิอุสได้ค้นพบสรรพคุณยาบางอย่าง ซึ่งสามารถรักษาโรคให้พวกนักรบที่ไปเอาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำของราชาออสเตรียและสเปน ซึ่งมีม้ามังกรเฝ้าอยู่นั้นมาได้ จึงทำให้ชาวเมืองพากันเลื่อมใสพากันมารักษาเป็นอันมาก
ความสามารถของเอสคูลาปิอุสนั้นกล่าวตามนิยายว่า สามารถรักษาคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ทีเดียว และยาที่รักษาก็ว่าใช้กาฝากต้นโอ๊ก แต่ว่าความสามารถอันนี้เองที่ทำใท้เอสคูลาปิอุสอายุสั้น ทั้งนี้ก็เนื่องจากเอสคูลาปิอุสได้ช่วยรักษาคนให้ตายน้อยลง เทพพลูโตหรือพญายมจึงขัดเคือง เพราะทำให้ยมโลกเงียบเหงา จึงไปร้องทุกข์ต่อเทพจูปีเตอร์ (บางแห่งว่าเทพพลูโตหาว่าเอสคูลาปิอุสหวังจะได้ราชบัลลังก์ จึงได้พยายามหลอกลวงประชาชนเพื่อให้ประชาชนหลงรัก) เทพจูปีเตอร์ฟังความข้างเดียวก็ส่งสายฟ้าฟาดลงมาต้องเอสคูลาปิอุสตายทันที เทพอพอลโลโกรธมากที่ลูกของตนตาย จึงจับยักษ์ตาเดียวของเทพพลูโตฆ่าเสียเป็นการแก้แค้น ต่อมาเทพจูปีเตอร์ทราบความจริงรู้สึกเสียใจในความหุนหันของตน จึงเสด็จลงมาอุ้มเอสคูลาปิอุสไปยังภูเขาโอลิมปัสเพื่อให้วิญญาณของเอสคูลาปิอุสได้ไปจุติเป็นเทพเจ้างูพิษ (ในสมัยนั้นเขามักจะรักษาโรคกันด้วยงู คือเอาพิษของงูมาทำยา เห็นจะเป็นเซรุ่มนั่นเอง) มีเรื่องกล่าวกันว่า ครั้งหนึ่งในกรุงโรมได้เกิดกาฬโรค ผู้คนล้มตายกันมากมาย เอสคูลาปิอุสได้เอางูพิษมาซ่อนไว้ตามกอหญ้าแถวริมแม่น้ำในประเทศอิตาลี ปรากฏว่า ผู้ที่เป็นโรคนี้และได้มาอาบกินน้ำในแม่น้ำที่งูได้คายพิษไว้ พากันหายจากโรคร้ายอย่างน่าอัศจรรย์มาก
การที่งูเข้ามาเกี่ยวข้องกับเอสคูลาปิอุส มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยก่อนคริสตกาล ๑,๒๐๐ ปี ขณะที่เอสคูลาปิอุสกำลังรักษาคนไข้อยู่ ก็มีงูตัวหนึ่งเลื้อยเข้ามาในคลินิกของเขา และขึ้นไปพันอยู่โดยรอบคทาของหมอ ด้วยเหตุนี้เองคนทั่ว ๆ ไปจึงเชื่อว่างูตัวนั้นได้บันดาลให้เอสคูลาปิอุสมีปัญญารักษาโรคได้เก่งกว่าหมออื่น ๆ
ตามเทพนิยายกล่าวว่า เมื่อเทพจูปีเตอร์ฆ่าเอสคูลาปิอุสแล้ว ก็ได้ทำรูปจำลองเป็นเทพปฏิมาขึ้นไว้บนสวรรค์ ตามรูปอยู่ในท่ามือถืองู แต่รูปเอสคูลาปิอุสนั้นมีต่าง ๆ กัน และสรุปได้ว่าจะต้องมีงูอยู่ด้วยเสมอ และในสมัยต่อมาถือว่าเอสคูลาปิอุสเป็นบรมครูของการเเพทย์
การที่ในวงการแพทย์ใช้งูเป็นเครื่องหมาย ก็เพราะถือตามโบราณว่างูรักษาโรคได้ ซึ่งเรื่องนี้ชาวจีนโบราณก็เชื่อกันมาก่อนว่างูรักษาโรคได้ จึงเกิดมียาดองงูเห่า และในนิยายโบราณก็มีเรื่องคนกินเหล้าที่มีงูตกลงไปตายแล้วหายจากโรคร้ายปรากฏอยู่
นอกจากนี้ชาวกรีกยังถือกันอีกว่า งูเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญของชีวิต ของการเกิดใหม่ ทั้งนี้เพราะเขาถือว่าการที่งูลอกคราบนั้นเป็นการคืนชีพ
ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี
สอบถามทางร้านวรันณ์ธร เพื่อเลือกไม้เท้างู แกะสลัก ปลุกเสกโดยหลวงปู่แดง