ควายธนูครูบาเดช

ประวัติควายธนู  ความเชื่อควายธนู  ความเป็นมา  ควายธนูเชื่อกันว่าเป็นวัตถุอาถรรพ์แรงกล้า  สามารถขับไล่

สิ่งอัปมงคล  ศัตรูหมู่มาร  อาถรรพ์ร้าย  วิญญาณร้าย  วางไว้ทางสามแพร่งแก้ฮวงจุ้ย  เจ้าที่แรงใช้  ๔  ตน  

ฝัง  ๔  มุมบ้าน  ที่นา  ไร่  สวน  สะกดลดอาถรรพ์  วางไว้หน้าร้านค้าแก้ดวงขัดค้าขายได้คล่อง  แช่ทำน้ำมนต์อาบล้างสิ่งอัปมงคลต่างๆ  ควายธนูชุดนี้ครูบาเดชท่านกล่าวเอาไว้ว่ามีฤทธิ์แรงมากๆ  จะใช้ทำอะไรก็ขลังไปหมด  เพราะคาถาอาคมที่ใช้เสกและกำกับ  ผนวกกับพลังจิตที่ประจุพลังเข้าไปมีมากมายเหลือคณานับ  ท่านเล่าให้ฟังว่า  เมื่อครั้งที่เคยสร้างวัวและควายธนูแต่ก่อนมา  มีวัวของชาวบ้านวิ่งเข้าไปภายในกุฏิของท่าน  เข้าไปขวิดกับ

วัวธนูและควายธนูที่วางอยู่บนหิ้งหน้าโต๊ะพระ  จมล้มระเนระนาด  และท่านเคยส่งกระแสจิตไปยังวัวของชาวบ้านที่เลี้ยงอยู่  ให้พวกมันเดินเรียงแถวทีละตัวและเรียงแถวตามลำดับตั้งแต่ตัวเล็กไปถึงตัวใหญ่   โดยสั่งให้ตัวแรกเดินไปกระโดดไปเป็นจังหวะ  บางครั้งท่านทำพิธีกรรมเสกกลางตะกอนเผาศพตอนเที่ยงคืนแต่เพียงรูปเดียว  

พอรุ่งเช้ามีชาวบ้านหลายคนไปเล่าให้ท่านฟังว่า  เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ขับรถผ่านมากลางดึกเห็น  วัวและควายของใครไม่รู้วิ่งและร้องเต็มป่าช้าไปหมด  บางตัวตาแดงก่ำเลยทีเดียว  ท่านไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มอย่างมีเมตตา

การสร้างควายธนู  วัตถุอาถรรพ์  มวลสารศักดิ์สิทธิ์  ควายธนูหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมวัตถุอาถรรพ์ต่างๆ  ครูบาเดชจะเน้นวิธีการสร้างแบบโบราณตามสูตรตามตำรา  โดยได้นำวัตถุอาถรรพ์  มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  นำมาเป็นมวลสารอุดไว้ใต้ฐานมีดังนี้  ดินอาถรรพ์  ๗  ป่าช้า  ดิน  ๗  ป่า  ดิน  ๗  โป่ง  ดิน  ๗  ท่า  ดิน  ๗  วัด  ดิน  ๗  นา  ดิน  ๗  ทุ่ง  ชานหมากปู่ฤาษีตาไฟ  แร่เหล็กไหลจากถ้ำต่างๆ  แร่เหล็กไหลแกะล้าน  แร่ธาตุอาถรรพ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  กาฝากจากไม้มงคลต่างๆ  ประคำโบราณนำเอามาบดเป็นผง  ไม้พญางิ้วดำ ไม้แก่นมะขาม  พระธาตุวรรณะสัณฐานต่างๆ  พระธาตุถ้ำแต้มที่อธิษฐานแล้วบังเกิดฝนตกฟ้าร้องลูกเห็บตก  

ผงเถาวัลย์หลงตัวผู้ตัวเมีย  ผงว่านมหาเสน่ห์  ผงว่านมหาเศรษฐีผงว่านมงคล  ๑๐๘  ชนิด  พระเครื่องใหม่และเก่าพิมพ์ต่างๆ  ที่ชำรุดแตกหัก  เส้นเกศาครูบาหลายท่าน  รวมถึงเส้นเกศาครูบาเดช  และมวลสารอื่นๆ  

อีกมากมายนับไม่ถ้วน  นำมาบดผสมผสานรวมเข้าด้วยกัน  เป็นมวลสารหลักในการจัดสร้าง  

พิธีกรรม  พิธีพุทธาภิเษก  การปลุกเสก  หลังจากหล่อและอุดด้วยมวลสารเสร็จ  ครูบาเดชจึงนำควายธนูไปปลุกเสกด้วยคาถาหัวใจวัวธนูทองและหัวใจควายธนูทอง  และคาถาด้านป้องกันภัย  ป้องกันภูตผีปีศาจ  สิ่งอัปมงคล  อีกหลายบท  รวมกันทั้งสองสูตรตามตำรา  ทำการประจุพลังลงอาคมตั้งธาตุทั้ง  ๔  (ดิน  น้ำ  ลม  ไฟ)  และเปิดอาการทั้ง  ๓๒  จนครบ  ให้กับควายธนูตั้งแต่หัวถึงหาง  ปฎิโลมจนครบ  ๓๒  ครั้ง  แล้วจึงเรียกจิตเรียกนามอัญเชิญดวงวิญญาณของควายทรพี  ให้มาสถิตอยู่ในหุ่นควายธนู  เพื่อให้บังเกิดความแรงฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า  จากนั้นก็ได้กำหนดพลังลมหายใจให้กับควายธนูให้มีชีวิตทีละตน  จึงเป็นอันเสร็จพิธีกรรม

วิธีนำควายธนูเข้าบ้าน  วิธีใช้ควายธนู  คาถาปลุกควายธนูก่อนนำเข้าบ้านเรือนหรือร้านค้า  ให้จุดธูปขออนุญาต

พระพุทธในบ้าน  ๓  ดอก  จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  และครูบาอาจารย์  กลางแจ้ง  ๑๖  ดอก  

จัดสำรับ  พวงมาลัย  ผลไม้  หญ้าคา  น้ำดื่ม  ถวาย  นำไปเลี่ยมใส่กรอบพกติดตัว  ใส่กระเป๋าถือ  หรือบูชาไว้ใส่พานไว้ในบ้าน  หน้าร้านค้า  จุดเทียน  ๑  คู่  ธูป  ๔  ดอก  หมั่นภาวนาทุกเช้าค่ำให้ขึ้นใจด้วยคาถา

คาถาพูดเป็นภาษาเหนือ เนื่องจากปลุกด้วยเกจิจากภาคเหนือ หากท่องไม่เป็นลองถามคนภาคเหนือดูว่าท่องอย่างไร

ข้อแนะนำควายธนู  ข้อควรระวัง  ในการใช้  เอาไปใช้แล้วจักบังเกิดผล  เพราะครูบาเดชท่านสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง  มามากมายหลายแบบหลายอย่างหลายรุ่นแล้ว  ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้แล้วมีประสบการณ์แตกต่างกันไป  ตามความหมั่นเพียร  ตามแรงบุญกุศลกรรมที่แต่ละคนสร้างมา  โดยเน้นให้ผู้นำไปใช้จะต้องปฏิบัติให้ถูกวิธีตามขั้นตอน  หมั่นนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์  ต้องสวดคาถาให้ขึ้นใจ  ที่สำคัญห้ามใช้ในทางที่ผิดศิลธรรม  อยากเห็นผลไวควรปฏิบัติตนให้อยู่ในศิล  เป็นคนดีต่อตนเอง  ต่อคนในครอบครัว  และสังคม  

ไม่เบียดเบียนใคร  ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  ให้ทำบุญใส่บาตรถวายสังฆทาน  ปล่อยนกปล่อยปลา  บริจาคให้ทานแก่คนตกทุกข์ได้ยาก  บริจาคโลงศพผ้าคลุมศพไร้ญาติ  กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลที่ทำมาให้แก่ตนเอง  คนในครอบครัว  ทุกดวงจิต  ทุกดวงวิญญาณ  เทพเทวาอารักษ์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ครูบาอาจารย์  ท่านทั้งหลายที่ประสิทธิ์ประสาทวิทยาคม  และสถิตปกปักษ์รักษาอยู่ภายในวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง  อยู่เป็นประจำ  ชีวิตจะประสบความสำเร็จรุ่งเรือง  ไม่เป็นที่ทุกข์ร้อน