ท้าวเวสสุวรรณ เปิดบูชาท้าวเวสสุวรรณห้อยคอ ท้าวเวสสุวรรณตั้งบูชา ประวัติ คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวเวสสุวรรณ ศาสตร์ท้าวเวสสุวรรณ หลักๆตามความเชื่อของผู้บูชาท้าวเวสสุวรรณมีความเชื่อดังนี้ ผู้ห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณจะได้รับการป้องป้องคุ้มครองป้องกันภูติ ผี ปีศาจ กันมนต์ดำ แก้คุณไสย์ต่างๆได้ผลดียิ่งนักซึ่งมีผู้บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณจำนวนมากมีประสบการณ์มามากมายนัก หลายคนที่ถูกภูติผีปีศาจ มนต์ดำคุณไสย์กระทำอยู่ พอได้ห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณแล้วจะพบว่าอาการต่างๆที่เป็นอยู่นั้นค่อยๆดีขึ้น และหายเป็นปลิดทิ้งไปหลัง 7วันไปแล้วซึ่งพบมากในคนที่ถูกกระทำ แล้วได้ห้อยบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณซึ่งผู้รู้ในวงการนี้จะแนะนำให้ห้อยบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณเป็นลำดับต้นๆในการแก้ภูติผีปีศาจและคุณไสย์มนต์ดำ และอีกประการหนึ่งที่ผู้คนนิยมบูชาห้อย หรือตั้งบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณกันนั้นคือมีความเชื่อว่าผู้บูชาท้าวเวสสุวรรณอย่างแท้จริงท่านจะประทานความร่ำรวย ความสำเร็จแก่ผู้บูชานั้นไม่ให้มีอับจน ให้มีกินมีใช้มิได้ขาด หลายคนที่บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณเกิดความร่ำรวยอย่างอัศจรรย์มามากแล้วจึงเป็นที่บูชายิ่งนัก แต่ผู้ที่ได้รับความร่ำรวยจากองค์ท้าวเวสสุวรรณจะต้องเป็นผู้ทะนุบำรุงพระศาสนา ดังที่องค์ท้าวเวสุวรรณท่านช่วยบำรุงดูแลพระพุทธศาสนาด้วย และอีกประการหนึ่งที่นิยมฮือฮาเป็นอย่างมากคือ คนจีน หรือคนไทย จะนิยมห้อยบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณเพื่อแก้ปีชง และเสริมปีชง ตัดปีชงให้ขาด ซึ่งพบว่าผู้บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณห้อยคอ หรือตั้งบูชานั้นมีผลต่อผู้ตรงกับปีชง แก้ปีชง และเสริมดวงได้ดีมากด้วยทีเดียว
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ ในคัมภีร์โบราณ กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูป องค์ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร ตามคาถาบูชาต่อไปนี้คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร (บูชาประจำวัน)
ตั้ง นะโม 3 จบอิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ เคล็ดการบูชาท้าวเวสสุวรรณ จุดสักการะธูป 9 ดอก และถวายดอกกุหลาบ 9 ดอก แล้วตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา และครูบาอาจารย์ ทั้งหลาย ที่ประสิทธิประสาทวิชามาแล้วระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่องคาถาท้าวเวสสุวรรณดังนี้ อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ การจะบูชาให้ได้ผลอย่างแท้จริงต้องนำเอาหลักความดีของท่านมาน้อมนำปฏิบัติด้วยคือ ต้องดำรงตนให้เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาคอยปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมจากคนไม่ดีตลอดจนต้องหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต หมั่นบริจาคทานเพื่อเป็นกุศลแก่ทั้งตัวเองและเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ได้ทั้งบูชาด้วยการไหว้และนำคุณธรรมของท่านไปปฏิบัติด้วยจะส่งผลให้เจริญก้าวหน้าและร่ำรวยมีความสุขอย่างแน่นอน------------------ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่ 1
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้ายักษ์ หน้าเทพ(เทวดา)รุ่น กฤษฎาภินิหาร แก้ปีชง รวยไม่จบ จนไม่เป็น ภัยไม่มี บูชา 299 บาทด้านหน้า ท้าวเวสสุวรรณหน้ายักษ์ ด้านหลัง ท้าวเวสสุวรรณหน้าเทพพระปั้มมวลสารแบบลงรัก สีขาวคือรักน้ำเกลี้ยง , สีน้ำตาลคือรักดำทำเก่า , สีดำคือรักดำทำเก่า องค์พระบรรจุมวลสารมากถึง 70 เปอร์เซนต์ต่อองค์ เป็นพระรุ่นที่เน้นมวลสารที่ดีมากที่สุด อกพระบรรจุพระบรมธาตุรวมสันฐานบรรจุเพิ่มให้ฟรี ความเชื่อท้าวเวสสุวรรณ ผู้ใดห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่่ขาดแก้ปีชง เสริมปีชง แก้ปีชง ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็น และมองไม่เห็น ป้องกันภูติ ผีวิญญาณต่างๆไม่กล้ามาทำอันตรายใดๆให้กับคนในครอบครัว กันเวทย์มนต์คุณไสย์ลมเพลมพัด พ่อแม่ผู้ปกครองนิยมบูชาให้เด็กห้อยกันมาก การสำเร็จของหน้ายักษ์มีหน้า เป็น เทวดา อันมีความหมายว่า "เสด็จเสวยสุขอยู่บนทิพย์วิมาน"โดยนัยที่ผูกปริศนามาแต่เดิมว่า มีฤทธิ์สูงส่งทั้ง 2 ทางคือ สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และขจัด ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลไม่กล้าเข้ามารบกวนเพราะทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่งนักจึงมั่นใจได้ว่าท้าวเสสสุวัณ ขึ้นเป็นพิมพ์ 2 หน้า คือหน้ายักษ์ และหน้าเทวดา อยู่ในองค์เดียวกัน สามารถป้องกันภูติผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายตลอดทั้งบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชาในคัมภีร์โบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดต้องการความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้ายักษ์ และหน้าเทวดา หรือหน้าเทพ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้าเทวดา รุ่นพิธีใหญ่ พุทธาภิเษก4พ.ย.60 วัดเขาลังพัฒนา อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
ท้าวเวสสุวรรณแบบเลี่ยมกรอบห้อยคอ
ท้าวเวสสุวรรณรุ่นพิเศษแบบแต่งสีทั้งองค์ ท้าวเวสสุวรรณสีเขียว สีทอง สีแดง ท้าวเวสสุวรรณสีทองจะเป็นหน้าเทวดา
ท้าวเวสสุวรรณด้านที่เป็นหน้ายักษ์ จะมีแบบสีเขียว และสีแดง
ขนาดองค์ท้าวเวสสุวรรณขนาดห้อยคอหากเทียบไม้บรรทัดแล้วขนาดตามรูปภาพ
ท้าวเวสสุวรรณ ศาสตร์ท้าวเวสสุวรรณ หลักๆตามความเชื่อของผู้บูชาท้าวเวสสุวรรณมีความเชื่อดังนี้ ผู้ห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณจะได้รับการป้องป้องคุ้มครองป้องกันภูติ ผี ปีศาจ กันมนต์ดำ แก้คุณไสย์ต่างๆได้ผลดียิ่งนักซึ่งมีผู้บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณจำนวนมากมีประสบการณ์มามากมายนัก หลายคนที่ถูกภูติผีปีศาจ มนต์ดำคุณไสย์กระทำอยู่ พอได้ห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณแล้วจะพบว่าอาการต่างๆที่เป็นอยู่นั้นค่อยๆดีขึ้น และหายเป็นปลิดทิ้งไปหลัง 7วันไปแล้วซึ่งพบมากในคนที่ถูกกระทำ แล้วได้ห้อยบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณซึ่งผู้รู้ในวงการนี้จะแนะนำให้ห้อยบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณเป็นลำดับต้นๆในการแก้ภูติผีปีศาจและคุณไสย์มนต์ดำ และอีกประการหนึ่งที่ผู้คนนิยมบูชาห้อย หรือตั้งบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณกันนั้นคือมีความเชื่อว่าผู้บูชาท้าวเวสสุวรรณอย่างแท้จริงท่านจะประทานความร่ำรวย ความสำเร็จแก่ผู้บูชานั้นไม่ให้มีอับจน ให้มีกินมีใช้มิได้ขาด หลายคนที่บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณเกิดความร่ำรวยอย่างอัศจรรย์มามากแล้วจึงเป็นที่บูชายิ่งนัก แต่ผู้ที่ได้รับความร่ำรวยจากองค์ท้าวเวสสุวรรณจะต้องเป็นผู้ทะนุบำรุงพระศาสนา ดังที่องค์ท้าวเวสุวรรณท่านช่วยบำรุงดูแลพระพุทธศาสนาด้วย และอีกประการหนึ่งที่นิยมฮือฮาเป็นอย่างมากคือ คนจีน หรือคนไทย จะนิยมห้อยบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณเพื่อแก้ปีชง และเสริมปีชง ตัดปีชงให้ขาด ซึ่งพบว่าผู้บูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณห้อยคอ หรือตั้งบูชานั้นมีผลต่อผู้ตรงกับปีชง แก้ปีชง และเสริมดวงได้ดีมากด้วยทีเดียว
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ
ในคัมภีร์โบราณ กล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูป องค์ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร ตามคาถาบูชาต่อไปนี้คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร (บูชาประจำวัน)
ตั้ง นะโม 3 จบ
อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ
เคล็ดการบูชาท้าวเวสสุวรรณ
จุดสักการะธูป 9 ดอก และถวายดอกกุหลาบ 9 ดอก แล้วตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา และครูบาอาจารย์ ทั้งหลาย ที่ประสิทธิประสาทวิชามาแล้วระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่องคาถาท้าวเวสสุวรรณดังนี้
อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ
การจะบูชาให้ได้ผลอย่างแท้จริงต้องนำเอาหลักความดีของท่านมาน้อมนำปฏิบัติด้วยคือ ต้องดำรงตนให้เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาคอยปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมจากคนไม่ดีตลอดจนต้องหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต หมั่นบริจาคทานเพื่อเป็นกุศลแก่ทั้งตัวเองและเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ได้ทั้งบูชาด้วยการไหว้และนำคุณธรรมของท่านไปปฏิบัติด้วยจะส่งผลให้เจริญก้าวหน้าและร่ำรวยมีความสุขอย่างแน่นอน
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่ 1
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้ายักษ์ หน้าเทพ(เทวดา)
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้ายักษ์ หน้าเทพ(เทวดา)
รุ่น กฤษฎาภินิหาร แก้ปีชง รวยไม่จบ จนไม่เป็น ภัยไม่มี บูชา 299 บาท
ด้านหน้า ท้าวเวสสุวรรณหน้ายักษ์ ด้านหลัง ท้าวเวสสุวรรณหน้าเทพ
พระปั้มมวลสารแบบลงรัก สีขาวคือรักน้ำเกลี้ยง , สีน้ำตาลคือรักดำทำเก่า , สีดำคือรักดำทำเก่า
องค์พระบรรจุมวลสารมากถึง 70 เปอร์เซนต์ต่อองค์ เป็นพระรุ่นที่เน้นมวลสารที่ดีมากที่สุด อกพระบรรจุพระบรมธาตุรวมสันฐานบรรจุเพิ่มให้ฟรี
ความเชื่อท้าวเวสสุวรรณ ผู้ใดห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่่ขาดแก้ปีชง เสริมปีชง แก้ปีชง ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็น และมองไม่เห็น ป้องกันภูติ ผีวิญญาณต่างๆไม่กล้ามาทำอันตรายใดๆให้กับคนในครอบครัว กันเวทย์มนต์คุณไสย์ลมเพลมพัด พ่อแม่ผู้ปกครองนิยมบูชาให้เด็กห้อยกันมาก การสำเร็จของหน้ายักษ์มีหน้า เป็น เทวดา อันมีความหมายว่า "เสด็จเสวยสุขอยู่บนทิพย์วิมาน"โดยนัยที่ผูกปริศนามาแต่เดิมว่า มีฤทธิ์สูงส่งทั้ง 2 ทางคือ สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และขจัด ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลไม่กล้าเข้ามารบกวนเพราะทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่งนักจึงมั่นใจได้ว่าท้าวเสสสุวัณ ขึ้นเป็นพิมพ์ 2 หน้า คือหน้ายักษ์ และหน้าเทวดา อยู่ในองค์เดียวกัน สามารถป้องกันภูติผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายตลอดทั้งบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชาในคัมภีร์โบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดต้องการความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้ายักษ์ และหน้าเทวดา หรือหน้าเทพ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้าเทวดา รุ่นพิธีใหญ่ พุทธาภิเษก4พ.ย.60 วัดเขาลังพัฒนา อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า หน้าเทวดา รุ่นพิธีใหญ่ พุทธาภิเษก4พ.ย.60 วัดเขาลังพัฒนา อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
ท้าวเวสสุวรรณแบบเลี่ยมกรอบห้อยคอ
ท้าวเวสสุวรรณรุ่นพิเศษแบบแต่งสีทั้งองค์ ท้าวเวสสุวรรณสีเขียว สีทอง สีแดง ท้าวเวสสุวรรณสีทองจะเป็นหน้าเทวดา
ท้าวเวสสุวรรณด้านที่เป็นหน้ายักษ์ จะมีแบบสีเขียว และสีแดง
ขนาดองค์ท้าวเวสสุวรรณขนาดห้อยคอหากเทียบไม้บรรทัดแล้วขนาดตามรูปภาพ
ท้าวเวสสุวรรณ แบบ แต่งสีตามวันเกิดสีแดงวันอาทิตย์ สีเหลืองวันจันทร์ สีชมพูวันอังคาร สีเขียววันพุธ สีส้มวันพฤหัสบดี สีฟ้าวันศุกร์ สีม่วงวันเสาร์ หรือหากชอบสีใดที่ไม่ใช่สีกาลกิณีวันเกิดตนเองสามารใช้สีที่เราชอบได้หมายเหตุ ด้านหลังท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา หรือหน้าเทพ จะแต่งเป็นสีทองคำทั้งองค์
ท้าวเวสสุวรรณแบบแต่งสีตามสีประจำวันเกิด
จี้ท้าวเวสสุวรรณเลี่ยมกรอบห้อยคอ ตามสีประจำวันเกิด
ท้าวเวสสุวรรณแบบแต่งสีตามประจำวันเกิดท้าวเวสสุวรรณสองหน้า ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทพ หรือหน้าเทวดาในหนึ่งองค์จะมีสองด้าน ด้านหน้ายักษ์จะแต่งสีตามวันเกิด ด้านหน้าเทพหรือเทวดาแต่งเป็นสีทองทั้งองค์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ตรงอกทั้งสองด้านจะเห็นเป็นก้อนนูนๆอยู่ตรงอกที่บรรจุไว้
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีแดงประจำวันเกิดวันอาทิตย์มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีเหลืองประจำวันเกิดวันจันทร์มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีชมพูประจำวันเกิดวันอังคารมีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีเขียวประจำวันเกิดวันพุธมีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีส้มประจำวันเกิดวันพฤหัสบดีมีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีฟ้าประจำวันเกิดวันศุกร์มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีม่วงประจำวันเกิดวันเสาร์มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
กดดูรายละเอียด ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า รุ่น กฤษฎาภินิหาร แก้ปีชง รวยไม่จบ จนไม่เป็น ภัยไม่มีกดดูรายละเอียดที่นี่ >>> https://goo.gl/RgaxH4
ท้าวเวสสุวรรณ แบบ แต่งสีตามวันเกิด
สีแดงวันอาทิตย์ สีเหลืองวันจันทร์ สีชมพูวันอังคาร สีเขียววันพุธ สีส้มวันพฤหัสบดี สีฟ้าวันศุกร์ สีม่วงวันเสาร์ หรือหากชอบสีใดที่ไม่ใช่สีกาลกิณีวันเกิดตนเองสามารใช้สีที่เราชอบได้
หมายเหตุ ด้านหลังท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา หรือหน้าเทพ จะแต่งเป็นสีทองคำทั้งองค์
ท้าวเวสสุวรรณแบบแต่งสีตามสีประจำวันเกิด
จี้ท้าวเวสสุวรรณเลี่ยมกรอบห้อยคอ ตามสีประจำวันเกิด
ท้าวเวสสุวรรณแบบแต่งสีตามประจำวันเกิด
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทพ หรือหน้าเทวดาในหนึ่งองค์จะมีสองด้าน ด้านหน้ายักษ์จะแต่งสีตามวันเกิด ด้านหน้าเทพหรือเทวดาแต่งเป็นสีทองทั้งองค์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ตรงอกทั้งสองด้านจะเห็นเป็นก้อนนูนๆอยู่ตรงอกที่บรรจุไว้
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีแดงประจำวันเกิดวันอาทิตย์
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีเหลืองประจำวันเกิดวันจันทร์
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีชมพูประจำวันเกิดวันอังคาร
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีเขียวประจำวันเกิดวันพุธ
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีส้มประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีฟ้าประจำวันเกิดวันศุกร์
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าสีม่วงประจำวันเกิดวันเสาร์
มีสองแบบพื้นขาว และพื้นดำ
กดดูรายละเอียด ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า
รุ่น กฤษฎาภินิหาร แก้ปีชง รวยไม่จบ จนไม่เป็น ภัยไม่มี
กดดูรายละเอียดที่นี่ >>> https://goo.gl/RgaxH4
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่ 2 ท้าวเวสสุวรรณกรอบราคาบูชาองค์ละ 199 บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่3 ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าท้าวเวสสุวรรณราคาบูชาองค์ละ 129บาท เลี่ยมกรอบ +70 บาทท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง มีสองหน้า ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทพ ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์ ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า เนื้อทองเหลือง ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทวดา
กดดูรายละเอียดท้าวเวสสุวรรณสองหน้ารุ่นนี้
กดดูที่นี่ >>> https://goo.gl/WAU4Bf
------------------ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่ 3 ท้าวเวสสุวรรณสีทอง
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 129 บาทท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบฟรีปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
ท้าวเวสสุวรรณเนื้อทองเหลืองสีทอง
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 4 ท้าวเวสสุวรรณล้อมเพชร
ราคาบูชา 159 บาท (หมดแล้ว)ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบไมคอนล้อมเพชรปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
จี้ท้าวเวสสุวรรณจิ๋ว ล้อมเพชร
จี้ท้าวเวสสุวรรณจิ๋วล้อมเพชร ใส่แหนบห้อย แหนบห้อยราคา 30 บาท
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 5 ท้าวเวสสุวรรณจิ๋ว
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 139 บาทท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบไมคอนปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
(หมดแล้ว)
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 6ท้าวเวสสุวรรณจิ๋วท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 159 บาทท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบไมคอนปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 7 ท้าวเวสสุวรรณหล่อมวลสารศักดิ์สิทธิ์ราคาบูชา 159 บาทท้าวเวสสุวรรณหล่อจากมวลสาร 9 ชนิด มีมวลสารเช่น หินเพชรเงินทองนาค ไม้งิ้วดำ ไม้กลายเป็นหิน เพชรหน้าทั่ง แก้วโป่งข่าม แร่ดูดทรัพย์ ไหลดำ ไหลเขียว รังปลวงกลายเป็นหิน แร่เหล็กน้ำพี้ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
ท้าวเวสสุวรรณหล่อมวลสารศักดิ์สิทธิ์
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 8 ท้าวเวสสุวรรณสองหน้าราคาบูชา 199บาท พร้อมเลี่ยมกรอบท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง มีสองหน้า ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทพ หรือหน้าเทวดาปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 9 จี้ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 159บาท
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 10 จี้ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 159บาท------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 11 มีดท้าวเวสสุวรรณ
(หมด)ด้ามมีดหล่อท้าวเวสสุวรรณ จากมวรสารผสมเรซิ่นแข็ง ใบมีดสแตนเลส ราคารวมฐานตั้งบูชาวัดเฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว วัดรวมด้ามท้าวเวสสุวรรณ รวมใบมีด ยาว 10 นิ้วปลุกเสกโดย พุทธาภิเษกงานใหญ่ งานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) วัดท้าวเวสสุวรรณโดยตรง
มีดท้าวเวสสุวรรณ มีดหมอท้าวเวสสุวรรณ
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 12 ตะกรุดท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 259บาท พร้อมตะกรุดไมคอนท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ท้าวเวสสุวรรณขนาดเล็กบรรจุในตะกรุดไมคอนสวยงามปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 13 ท้าวเวสสุวรรณ เลี่ยมกรอบเล็กราคาบูชา 159บาท พร้อมเลี่ยมกรอบท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ท้าวเวสสุวรรณขนาดเล็กเลี่ยมกรอบพลาสติกปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 14 ท้าวเวสสุวรรณ เลี่ยมกรอบเล็กราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 159บาทถ้าเลี่ยมกรอบ 199 บาทท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ขนาดห้อยคอปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
ท้าวเวสสุวรรณแบบห้อยรถ ห้อยหน้าบ้าน ห้อยหน้าร้าน ราคาบูชา 199 บาท
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 15 ท้าวเวสสุวรรณ ขนาดสูง 3.5 เซ็นท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 199บาท เลี่ยมกรอบห้อยคอ 259 บาทท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ขนาด 3.5 เซ็น ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
ท้าวเวสสุวรรณแบบใส่ครอบ ตั้งหน้ารถ หน้าบ้าน หรือหิ้งพระ
ราคาบูชา 259 บาท
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 16 เหรียญพระพุทธชินราช หลังท้าวเวสสุวรรณราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ พระเนื้อมันปู (สีน้ำตาล) 199 บาท พระเนื้อนาค 299 บาท พระเนื้อทองทิพย์ 499บาทปลุกเสกโดย พุทธาภิเษกงานใหญ่ งานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) วัดท้าวเวสสุวรรณโดยตรง
เหรียญพระพุทธชินราช หลังท้าวเวสสุวรรณ วัดยักษ์ เหรียญนี้พุทธาภิเษกใหญ่เกจิอาจารย์ปลุกเสก
เหรียญนี้พุทธภิเษกงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) วัดท้าวเวสสุวรรณโดยตรง
------------------ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 17 ท้าวเวสสุวรรณ แบบหล่อพิมพ์กรอบสี่เหลี่ยมท้าวเวสสุวรรณหล่อจากแร่น้ำพี้แร่ศักดิ์สิทธิ์ ของ จ.อุตรดิตถ์ ท้าวเวสสุวรรณขนาดสูง 3 นิ้ว กว้าง 1.5 นิ้ว เหมาะสำหรับแปะหน้าบ้าน หน้าร้าน หน้าห้อง กันภูติผีปีศาจ กันคุนไสย์มนต์ดำต่างๆราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หล่อจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ แร่น้ำพี้ แบบหล่อพิมพ์แบบสี่เหลี่ยม ราคาบูชา
ท้าวเวสสุวรรณหล่อจากแร่น้ำพี้ ความกว้าง 3.5 ซม. ความสูง 7.5 ซม.
สีน้ำตาล สีแร่น้ำพี้ธรรมชาติองค์ละ 99 บาท
(หมด)
แผ่นท้าวเวสสุวรรณ มวลสารศักดิ์สิทธิ์
ท้าวเวสสุวรรณ แบบแผ่น กดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >>> https://goo.gl/Qyie8m------------------ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ
กดดูผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ และผ้ายันต์อื่นๆทุกแบบ กดเลือกดูที่นี่ https://goo.gl/zRCJGt
------------------ท้าวเวสสุวรรณ ขนาดตั้งบูชา
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่ 2 ท้าวเวสสุวรรณกรอบ
ราคาบูชาองค์ละ 199 บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่3 ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชาองค์ละ 129บาท เลี่ยมกรอบ +70 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง มีสองหน้า ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทพ
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า เนื้อทองเหลือง ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทวดา
กดดูรายละเอียดท้าวเวสสุวรรณสองหน้ารุ่นนี้
กดดูที่นี่ >>> https://goo.gl/WAU4Bf
กดดูที่นี่ >>> https://goo.gl/WAU4Bf
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ แบบที่ 3 ท้าวเวสสุวรรณสีทอง
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 129 บาท
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 129 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบฟรี
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
ท้าวเวสสุวรรณเนื้อทองเหลืองสีทอง
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 4 ท้าวเวสสุวรรณล้อมเพชร
ราคาบูชา 159 บาท (หมดแล้ว)
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบไมคอนล้อมเพชร
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
จี้ท้าวเวสสุวรรณจิ๋ว ล้อมเพชร
จี้ท้าวเวสสุวรรณจิ๋วล้อมเพชร ใส่แหนบห้อย แหนบห้อยราคา 30 บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 5 ท้าวเวสสุวรรณจิ๋ว
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 139 บาท
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 139 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบไมคอน
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
(หมดแล้ว)
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 6ท้าวเวสสุวรรณจิ๋ว
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 159 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ทำสีทอง เลี่ยมกรอบไมคอน
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 7 ท้าวเวสสุวรรณหล่อมวลสารศักดิ์สิทธิ์
ราคาบูชา 159 บาท
ท้าวเวสสุวรรณหล่อจากมวลสาร 9 ชนิด มีมวลสารเช่น หินเพชรเงินทองนาค ไม้งิ้วดำ ไม้กลายเป็นหิน เพชรหน้าทั่ง แก้วโป่งข่าม แร่ดูดทรัพย์ ไหลดำ ไหลเขียว รังปลวงกลายเป็นหิน แร่เหล็กน้ำพี้
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
ท้าวเวสสุวรรณหล่อมวลสารศักดิ์สิทธิ์
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 8 ท้าวเวสสุวรรณสองหน้า
ราคาบูชา 199บาท พร้อมเลี่ยมกรอบ
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง มีสองหน้า ด้านหนึ่งหน้ายักษ์ ด้านหนึ่งหน้าเทพ หรือหน้าเทวดา
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 9 จี้ท้าวเวสสุวรรณ
ราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 159บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 10 จี้ท้าวเวสสุวรรณ
ราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 159บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 11 มีดท้าวเวสสุวรรณ
(หมด)
(หมด)
ด้ามมีดหล่อท้าวเวสสุวรรณ จากมวรสารผสมเรซิ่นแข็ง ใบมีดสแตนเลส ราคารวมฐานตั้งบูชา
วัดเฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว วัดรวมด้ามท้าวเวสสุวรรณ รวมใบมีด ยาว 10 นิ้ว
ปลุกเสกโดย พุทธาภิเษกงานใหญ่ งานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดพุทธสถานสันติวัน
(วัดยักษ์) วัดท้าวเวสสุวรรณโดยตรง
มีดท้าวเวสสุวรรณ มีดหมอท้าวเวสสุวรรณ
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 12 ตะกรุดท้าวเวสสุวรรณ
ราคาบูชา 259บาท พร้อมตะกรุดไมคอน
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ท้าวเวสสุวรรณขนาดเล็กบรรจุในตะกรุดไมคอนสวยงาม
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 13 ท้าวเวสสุวรรณ เลี่ยมกรอบเล็ก
ราคาบูชา 159บาท พร้อมเลี่ยมกรอบ
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ท้าวเวสสุวรรณขนาดเล็กเลี่ยมกรอบพลาสติก
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 14 ท้าวเวสสุวรรณ เลี่ยมกรอบเล็ก
ราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 159บาท
ถ้าเลี่ยมกรอบ 199 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ขนาดห้อยคอ
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
ท้าวเวสสุวรรณแบบห้อยรถ ห้อยหน้าบ้าน ห้อยหน้าร้าน
ราคาบูชา 199 บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 15 ท้าวเวสสุวรรณ ขนาดสูง 3.5 เซ็น
ท้าวเวสสุวรรณราคาบูชา 199บาท
เลี่ยมกรอบห้อยคอ 259 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์หล่อจากทองเหลือง ขนาด 3.5 เซ็น
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) จ.พิษณุโลก
ท้าวเวสสุวรรณแบบใส่ครอบ ตั้งหน้ารถ หน้าบ้าน หรือหิ้งพระ
ราคาบูชา 259 บาท
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 16 เหรียญพระพุทธชินราช หลังท้าวเวสสุวรรณ
ราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ พระเนื้อมันปู (สีน้ำตาล) 199 บาท
พระเนื้อนาค 299 บาท
พระเนื้อทองทิพย์ 499บาท
ปลุกเสกโดย พุทธาภิเษกงานใหญ่ งานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) วัดท้าวเวสสุวรรณโดยตรง
เหรียญพระพุทธชินราช หลังท้าวเวสสุวรรณ วัดยักษ์ เหรียญนี้พุทธาภิเษกใหญ่เกจิอาจารย์ปลุกเสก
เหรียญนี้พุทธภิเษกงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดพุทธสถานสันติวัน (วัดยักษ์) วัดท้าวเวสสุวรรณโดยตรง
------------------
ท้าวเวสสุวรรณแบบที่ 17 ท้าวเวสสุวรรณ แบบหล่อพิมพ์กรอบสี่เหลี่ยม
ท้าวเวสสุวรรณหล่อจากแร่น้ำพี้แร่ศักดิ์สิทธิ์ ของ จ.อุตรดิตถ์
ท้าวเวสสุวรรณขนาดสูง 3 นิ้ว กว้าง 1.5 นิ้ว เหมาะสำหรับแปะหน้าบ้าน หน้าร้าน หน้าห้อง กันภูติผีปีศาจ กันคุนไสย์มนต์ดำต่างๆราคาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หล่อจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ แร่น้ำพี้ แบบหล่อพิมพ์แบบสี่เหลี่ยม ราคาบูชา
ท้าวเวสสุวรรณหล่อจากแร่น้ำพี้
ความกว้าง 3.5 ซม. ความสูง 7.5 ซม.
สีน้ำตาล สีแร่น้ำพี้ธรรมชาติองค์ละ 99 บาท
(หมด)
แผ่นท้าวเวสสุวรรณ มวลสารศักดิ์สิทธิ์
ท้าวเวสสุวรรณ แบบแผ่น กดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >>> https://goo.gl/Qyie8m
------------------
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ
กดดูผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ และผ้ายันต์อื่นๆทุกแบบ กดเลือกดูที่นี่ https://goo.gl/zRCJGt
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ ขนาดตั้งบูชา
ท้าวเวสสุวรรณ องค์ขนาดเล็๋ก สูง 13 ซม.
ท้าวเวสสุวรรณ หล่อจากแร่น้ำพี้แร่ศักดิ์สิทธิ์ของ จ.อุตรดิตถ์
สีน้ำตาลธรรมชาติองค์ละ 179 บาท
สีเงิน และสีทอง ราคาบูชาองค์ละ 199 บาท
แบบแต่งสี ราคาบูชาองค์ละ 299 บาท
------------------
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ องค์ขนาดเล็๋ก สูง 7 นิ้ว
วัดจากฐาน สูง 7 นิ้ว วัดเฉพาะฐานกว้าง 3 นิ้ว หล่อจากแร่น้ำพี้แร่ศักดิ์สิทธิ์ของ จ.อุตรดิตถ์
แต่งองค์สีแดง สีเขียว ทรงเครื่องทอง เงิน หรือ สีอื่นๆตามแต่ลูกค้าต้องการ ราคาบูชาองค์ละ 459 บาท (งานฝีมืองานละเอียด)
สีเงิน สีทอง สีดำ สีนาค ราคาบูชาองค์ละ 359 บาท
สีน้ำตาลธรรมชาติองค์ละ 259 บาท
กดดูรายละเอียดท้าวเวสสุวรรณตั้งบูชารุ่นนี้ กดดูที่นี่ >>> https://goo.gl/V45U3H
สีเงิน สีทอง สีดำ สีนาค ราคาบูชาองค์ละ 359 บาท
สีน้ำตาลธรรมชาติองค์ละ 259 บาท
------------------
------------------
ท้าวเวสสุวรรณ องค์ขนาดกลาง สูง 12 นิ้ว
ท้าวเวสสุวรรณหล่อจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ แร่น้ำพี้ จ.อุตรดิตถ์องค์ใหญ่ สูง 12 นิ้ว ฐานกว้าง 2.5 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว สีน้ำตาล สีแร่น้ำพี้ธรรมชาติองค์ละ 799 บาท
แต่งองค์สีเขียว ทรงเครื่องทอง เงิน สีอื่นๆตามแต่ลูกค้าต้องการ ราคาบูชาองค์ละ 999 บาท
รูปท้าวเวสสุวรรณ หล่อจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ แร่น้ำพี้ จ.อุตรดิตถ์สีเงิน และสีทอง ราคาบูชาองค์ละ 899 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่รุ่นนี้
กดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ >>> https://goo.gl/WzmpJ2
------------------การปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
การปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน , เจ้าคณะตำบลดงประคำ เขต ๑ จังหวัดพิษณุโลก
การปลุกเสก และพุทธภิเษกในงานใหญ่อื่นๆ โปรดคลิกดูที่ link นี้ https://utdid.com/amulet/0001109.html
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัน) หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า "ท้าวกุเวร" ถ้าในพระพุทธศาสนาจะเรียก "ท้าวไพสพ" เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย โดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวาร ว่ากันว่าอาณาเขตที่ ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองนั้นใหญ่มหาศาลมาก และ ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อันประกอบไปด้วย "พระอินทร์" (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก , "พระยม" (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้ และ "พระวรุณ" (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก และเพราะ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งอสูร คนโบราณจึงมักทำรูป ท้าวเวสสุวรรณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันภูตผีปีศาจไม่ให้มารบกวนเด็กเล็กได้ และนิยมทำผ้ายันต์รูป ท้าวเวสสุวรรณ รวมทั้งจำหลักรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้ที่มีดหมอของสัปเหร่อ เพื่อกำราบวิญญาณ และยังมีผู้พกพารูป ท้าวเวสสุวรรณ หรือทำเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณอีกด้วย ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วเรามักเห็นภาพ ท้าวเวสสุวรรณ ในรูปลักษณ์ของยักษ์ ยืนถือกระบองยาว หรือไม้เท้าขนาดใหญ่อยู่ระหว่างขา เหมือนมีขาสามขา เนื่องจากท้าวกุเวรมีรูปร่างพิการ จึงเป็นเหตุให้พระพรหมตั้งชื่อให้ว่า "ท้าวกุเวร" แต่ในวรรณคดีหลายฉบับ รวมทั้งตำราโบราณ ได้กล่าวตรงกันว่า อันที่จริงแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ เป็นยักษ์ที่มีผิวกายและพัสตราภรณ์สีเหลืองทอง จิตใจดีงาม และอุทิศตนถวายพิทักษ์รักษาพุทธสถาน และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น หากใครที่เดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่จังหวัดพิษณุโลก ก็อาจจะได้พบรูปหล่อปิดทองด้านซ้ายของฐานองค์พระพุทธชินราช ทำเป็นรูป ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อปกปักคุ้มครองพระพุทธศาสนา ไม่ให้หมู่มารมารังควาน รวมทั้งปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน ดังนั้น เราอาจจะเคยเห็นว่า วัดวาอารามต่าง ๆ หรือด้านหน้าถ้ำ จะมีรูปปั้้นยักษ์ 1 หรือ 2 ตน ยืนถือกระบองค้ำพื้นเฝ้าหน้าประตูโบสถ์ หรือวิหารที่เก็บของมีค่า โบราณวัตถุของทางวัดอยู่ ซึ่งหากยักษ์ที่ยืนปกปักรักษาอยู่มีตนเดียว นั่นก็คือ ท้าวเวสสุวรรณ นั่นเอง แต่ถ้าหากมี 2 ตน ก็คือบริวารของ ท้าวเวสสุวรรณ ที่จะมาคอยปกปักรักษาบริเวณวัด และนอกจาก ท้าวเวสสุวรรณ จะมีหน้าที่ปกปักรักษาพระพุทธศาสนาแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ ยังมีหน้าที่จดความดีของคนทางทิศเหนือไปจารึก และประกาศให้เทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้รับรู้อีกด้วย
ตำนานความเชื่อของ ท้าวเวสสุวรรณ
ตามตำนานทางพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในอดีตชาติ ท้าวเวสสุวรรณ เคยเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย ด้วยความใจบุญจึงได้นำเงินทองไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ และด้วยกุศลผลบุญที่ ท้าวเวสสุวรรณ บำเพ็ญมานับหลายพันปี พระพรหม และ พระอิศวร จึงให้พรแก่ ท้าวเวสสุวรรณ ให้เป็นอมตะ และเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมจำหลักรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้เคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกหนึ่งประการ ตรงตามความหมายของชื่อ "ท้าวเวสสุวรรณ" คือ คำว่า "เวส" แปลว่า พ่อค้า จึงหมายถึงพ่อค้าอันมีทรัพย์ ได้แก่ ทองคำ
นอกจากนี้อีกหนึ่งตำนานในพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในชาติหนึ่ง ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเดิมชื่อ กุเวรพราหมณ์ ได้ทำบุญกุศลมาก จนชาติต่อมา ได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์ พระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร และทรงเป็นพระสหายกับเจ้าชายสิทธัตถะ ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร จนบรรลุเป็นโสดาบัน และได้ถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร ให้พระพุทธเจ้าได้เข้าประทับ จึงเป็นอานิสงส์ให้ได้วิมานอันสวยงาม และการที่พระเจ้าพิมพิสารถวายทานบ่อย ๆ จึงเป็นปัจจัยให้มีทิพยสมบัติมากมาย เมื่อได้เป็นเทวดาก็ทรงมีอำนาจมาก
ขณะที่ตามตำนานของพรามหณ์ เชื่อกันว่า ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร หรือ กุเปรัน เป็นพี่ชายต่างมารดาของทศกัณฐ์ แต่ไปนับถือท้าวมหาพรหมผู้เป็นเทวดา เพราะปรารถนาจะบำเพ็ญบารมี ทำให้ผิดใจกับพ่อซึ่งอยู่ในตระกูลยักษ์ โดยท้าวมหาพรหมทรงโปรดปรานท้าวกุเวร จึงประทานบุษบกให้ เพื่อให้ล่องลอยไปไหนมาได้ตามใจปรารถนา ก่อนที่ทศกัณฐ์จะไปแย่งบุษบกของท้าวกุเวรที่พระมหาพรหมประทานให้ไป และยึดกรุงลงกาที่ท้าวกุเวรปกครองอยู่มาได้สำเร็จ ท้าวมหาพรหมจึงสร้างนคร "อลกา" ให้ท้าวกุเวรใหม่
ประวัติท่านท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ)
ประวัติท้าวเวสสุวรรณ ตำนานท้าวเวสสุวัณ มีกำเนิดจากหลายตำนานรูปร่างหน้าตาของท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) จะเป็นที่คุ้นเคยในบ้านเราเป็นอย่างดี คือ เป็นรูปยักษ์ถือตะบองขนาดใหญ่ ด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษสและภูตผีปีศาจ
ท้าวเวสสุวรรณคือใคร ถ้าหากจะพูดถึง เจ้า หรือ นายแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลายแล้ว เรามักจะเอ่ยนาม ท้าวเวสสุวัณ หรือที่พราหมณ์เรียกกันว่า ท้าวกุเวร และทางพุทธเรียก ท้าวไพสพ ซึ่งสถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นล่างสุดของฉกามาพจร ชื่อสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาภูมิ
รูปร่างหน้าตาของ ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) จะเป็นที่คุ้นเคยในบ้านเราเป็นอย่างดี คือ เป็นรูปยักษ์ถือตะบองขนาดใหญ่ ด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษส และภูตผีปีศาจ คนโบราณจึง มักทำ รูปท้าวเวสสุวรรณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ภูตผีปีศาจมารบกวนเด็กเล็ก และนิยมทำ ผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) หรือจำหลักเป็นด้ามของมีดหมอที่สัปเหร่อใช้กำราบวิญญาณ เนื่องจากสมัยก่อนเวลาเผาศพก็ยกขึ้นกองฟอนแล้วใส่ไฟเผา พอร้อนเข้าเส้นเอ็นก็ยึดถึงขนาดลุกขึ้นนั่ง สัปเหร่อเลยต้องใช้มีดกรีดตามเส้นเอ็นก่อน ทีนี้พอยกขึ้นเผาศพก็จะไม่กระดุกกระดิก เลยเป็นความเชื่อว่ามีดหมอจำหลักรูปท้าวเวสสุวัณสามารถปราบผีได้
คติความเชื่อ ตำนานท้าวเวสสุวรรณ
ประวัติท้าวเวสสุวรรณ ตำนานท้าวเวสสุวัณ คติความเชื่อแบบไตรภูมิ เชื่อว่ามีท้าวโลกบาลประจำอยู่ 4 ทิศ จึงนิยมจำหลักอยู่ตามบานประตูโบสถ์ วิหาร เรียกว่า ทวารบาล หมายถึง ผู้ดูแลประตู บางครั้งพบทวารบาลบางแห่งเป็นแบบจีน แทนที่จะเป็นรูปเทวดาแบบไทยถือพระขรรค์ กลับเป็นเทวดาจีนคล้ายตัวงิ้ว ถือ หอก ดาบ หรือง้าว เหยียบอยู่บนสิงโตจีน เราเรียกว่า เสี้ยวกาง หรือ เซี่ยวกาง เข้าใจว่าเป็นอิทธิพลของจีนที่เข้ามาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ หัว รัชกาลที่ 3 เนื่องจากพระองค์นิยมงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบจีน ท้าวเวสสุวรรณ ของ ท่านเจ้าประคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวราราม
ท้าวจตุโลกบาลประจำทิศทั้งสี่จะประกอบด้วย
ทิศตะวันออก พราหมณ์เรียก พระอินทร์ พุทธเรียก ท้าวธตรฐ มี คนธรรพ์ เป็นบริวาร
ทิศตะวันตก พราหมณ์เรียก พระวรุณ พุทธเรียก ท้าววิรูปักษ์ มีนาค ครุฑ และเทวดา เป็นบริวาร
ทิศใต้ พราหมณ์เรียก พระยม พุทธเรียก ท้าววิรุฬหก มี กุมภัณฑ์ เป็นยักษ์มีอัณฑะใหญ่เท่าหม้อตาลเป็นบริวาร
และ ทิศเหนือ ได้แก่ ท้าวเวสสุวรรณ พราหมณ์เรียก ท้าวกุเวร พุทธเรียก ท้าวไพสพ มี อสูร รากษส และภูตผีปีศาจ เป็นบริวาร
ท้าวกุเวรนอกจากนี้ ในตำราโบราณและงานวรรณคดีกล่าวตรงกันว่า ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เป็นยักษ์ที่มีพัสตราภรณ์และผิวกายสีเหลืองทอง จิตใจดีงาม ดำรงอยู่ในสัตยธรรม ถึงขนาดอุทิศตนถวายพิทักษ์รักษาพุทธสถาน และองค์พระพุทธเจ้า เช่น รูปหล่อปิดทองด้านซ้ายของฐานองค์พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ก็ทำเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ส่วนด้านขวาเป็นยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อ อา ฬาวกยักษ์ เหตุที่เรียกกันว่า ท้าวกุเวร เนื่องจากพระพรหมเห็นว่ามีรูปร่างไม่ดี ร่างกายพิการต้องถือไม้เท้า จึงตั้งชื่อให้ดังนั้น ที่บ้านเรามาจำหลักเป็นยักษ์ถือตะบองยันพื้น ก็คงจะมีเค้าเงื่อนมาจากเรื่องดังกล่าว
ท้าวเวสสุวรรณ ความหมายของชื่อ ท้าวเวสสุวัณ นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน
บ้านเรารู้จักกันในชื่อ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หรือในชื่อ ธนบดี แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ ธเนศวร แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวง เทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือ จำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย คาถาท้าวเวสสุวรรณ ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ วัดพราหมณี วัดหลวงพ่อปาดแดง รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ เจ้าคุณศรีสนธิ์ วัดสุทัศน์
วัตถุมงคลที่นิยมทำเป็นรูปท้าวเวสสุวัณก็จะมีมากมาย อาทิ ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ของท่านเจ้าประคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นต้น
คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง :โดย ราม วัชรประดิษฐ์
ตามตำนานของฮินดูท้าวเวสสุวัณ เป็นบุตรพระวิศระวัสมุนี กับนางอิฑาวิฑา และเพราะว่ามีร่างกายที่งดงามจึงมีนามว่า กุเวร ซึ่งแปลว่า ตัวขี้ริ้ว กุเวร หรือท้าวเวสสุวัณนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นยักษ์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็เป็นยักษ์ฝ่ายธรรมะ ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมเพียรบำเพ็ญตบะอยู่หลายพันปี จนได้รับพระพรจากท้าวมหาพรหมให้เป็น พระธนะบดี คือเจ้าแห่งทรัพย์ทั้งปวงและเป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งหลาย พระวิศระวัสมุนี เป็นบิดาให้ท้าวเวสสุวัณไปอยู่นครลงกา ซึ่งพระวิศวกรรมสร้างให้เป็นที่อยู่เพราะเกรงกลัวฤทธิ์เดชของพระนารายณ์ นครลงกาขณะนั้นจึงรกร้างว่างเปล่าลงท้าวเวสสุวัณจึงได้ปกครองนครลงกาสืบมา ต่อมา ท้าวสุมาลีซึ่งเป็นยักษ์ตนหนึ่งหนีพระนารายณ์ไปอยู่ใต้บาดาลคิดอุบายจะเอานครลงกาคืน จึงวางแผนนำธิดาชื่อนิกษาไปถวายให้เป็นภรรยาพระวิศวะวัสมุนี แล้วได้เกิดบุตรร่วมกัน 4 ตน คือ 1. ท้าวราพณาสูร (ทศกัณฑ์) 2. กุมภกรรณ 3. วิภิษณ์ (พิเภษณ์) 4. นางศูรปนขา ด้วยเหตุนี้ท้าวเวสสุวัณจึงมีศักดิ์เป็นพี่ของทศกัณฑ์ เพราะว่าเป็นลูกร่วมบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดากัน ต่อมา นางนิกษาเห็นความสง่าของท้าวเวสสุวัณเวลาขึ้นบุษบก ที่ได้รับการประทานจากท้าวมหาพรหม ลอยไปบนอากาศเพื่อเข้าเฝ้าพระบิดาด้วยความสง่างาม นางยักษ์จึงมีความอิจฉาริษยาตามแบบฉบับของแม่เลี้ยงทั่วไปที่ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีเกินลูกของตัว เลยยุยงให้ทศกัณฑ์ตั้งใจบำเพ็ญตบะอยู่หลายพันปี จนได้รับการเมตตาจากท้าวมหาพรหมประทานพรให้เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลาย แล้วจึงยกทัพไปแย่งนครลงกา และบุษบกได้จากท้าวเวสสุวัณ ผู้เป็นพี่ชายพ่อเดียวกันแท้ ๆ แต่ท้าวเวสสุวัณถึงแม้จะเป็นยักษ์ก็เป็นยักษ์ฝ่ายธรรมะ และรักสันติไม่ต้องการก่อให้เกิดศึกสายเลือด จึงทิ้งนครลงกาและบุษบกให้ทศกัณฑ์แล้วพาบริวารหนีออกจากนครลงกาไปหาที่อยู่ใหม่ ท่านท้าวมหาพรหม เห็นความดีของท้าวเวสสุวัณ จึงให้พรเป็น อมตะ ไม่มีการตายและเป็นโลกบาล ประจำทิศอุดร (ทิศเหนือ) เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ปกครองสวรรค์ชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นดินแดนน่าอยู่ เพราะมีรมณียสถานอันสำราญปราศจากความทุกข์โศกโรคภัยและความเหนื่อยยาก ปราศจากความวิตก ความหิว และความกลัวต่าง ๆ ทั้งยังมีอายุยืนถึงหมื่นปี มีสวนสวรรค์ชื่อ เจตระรถ บรรดาต้นไม้ประดับในสวนล้วนรโหฐาน มีใบเป็นผ้าเนื้อดี มีดอกเป็นอัญมณีล้ำค่า และมีผลเป็นนางกินรีงดงาม พระวิศวกรรมเป็นผู้สร้างมหาปราสาทให้อยู่อย่างโอฬารและวิจิตตระการตา มีกินนรและนางกินรีเป็นนางบำเรอ
สวรรค์ชั้นที่ 1 นี้เรียกว่า สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ตั้งอยู่ ณ เขาพระสุเมรุกลางจักรวาล โดยมียอดเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 พระอินทร์เป็นผู้ปกครอง (สวรรค์มี 6 ชั้น) สาเหตุที่เรียกสวรรค์ชั้นที่ 1 นี้ว่า จาตุมหาราชิกา ก็เพราะว่ามีจตุมหาราชเป็นผู้ปกครอง 4 องค์ดังที่เราเรียกว่า จตุโลกบาล คือมีหน้าที่รักษาโลกมนุษย์ใน 4 ทิศ ได้แก่
1.ทิศตะวันออก รักษาโดยท้าวธตรฐ จอมคนธรรพ์ ซึ่งคนธรรพ์นี้เป็นลูกครึ่งคนกับเทวดา เป็นผู้รักษาต้นโสมจึงมีความชำนาญการปรุงยา และเป็นนักษัตรคือมีความรอบรู้การดูดวงดาว เชี่ยวชาญดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นชาวสวรรค์ที่ชำนาญการขับร้องและเล่นดนตรี ดีด สี ตี เป่า จึงมีหน้าที่เป็นพระภูมิรักษาห้องบ่าวสาวอีกด้วย
2.ทิศใต้ รักษาโดยท้าววิรุฬหก จอมกุมภัณฑ์ ซึ่งความจริงท้าววิรุฬหกนี้เป็นจอมเทวดาองค์หนึ่ง มีนามว่า พระพิรุฬห์ เป็นเจ้าแห่งน้ำทั้งปวง เป็นเทวราชที่มีฤทธิ์ยิ่งกว่าเทพเจ้าองค์อื่น ๆ จึงเป็นผู้สร้างและบำรุงเทวโลกและมนุษย์โลก มีอำนาจและรอบรู้ในสิ่งทั้งปวงเพราะเป็นผู้ส่งเทวทูตไปทั่วทุกสารทิศเพื่อจดจำการกระทำของเทวดา มนุษย์และอสูรทั้งปวง ท่านเป็นผู้ที่เกลียดชังการกล่าวเท็จ และมีผู้ผิดสัญญาจึงมักจะลงโทษให้เจ็บป่วยไข้ หรือนำวรุณบาศคล้องคอไปลงทัณฑ์ แต่พระองค์เป็นผู้มีเมตตาถ้าผู้ใดสำนึกผิดก็จะผ่อนปรนให้ และผู้ใดประพฤติดีอยู่ในทำนองคลองธรรมท่านก็จะอำนวยความสุขสวัสดี ช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้ในบางคราว
3.ทิศตะวันตก รักษาโดยท้าววิรูปักษ์ จอมนาค คือมีบริวารเป็นมนุษย์ผสมนาคมีหน้าที่รักษา สมณะชีพราหมณ์และมนุษย์ผู้รักษาศีลภาวนาทั่วไป ซึ่งนาคนั้นมีความสำคัญไม่น้อย เคยขดตัวทำเป็นบัลลังก์ให้พระวิษณุบรรทมอยู่ในเกษียรสมุทร เคยให้เป็นเชือกผูกเรือไว้กับกระโดงปลาใหญ่ ซึ่งพระนารายณ์อวตารเมื่อคราวน้ำท่วมโลก และเป็นเชือกพันกับภูเขาในการทำน้ำอมฤต ทั้งพระยานาคยังเป็นสร้อยสังวาลของพระอิศวรอีกด้วย ฯลฯ นี่ว่ากันตามคัมภีร์รามายณะของพราหมณ์ส่วนในสมัย พระสมณโคดมบรมพุทธเจ้าของเราก็มีนาค มาเกี่ยวข้องหลายคราว เช่น เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นจิก ก็มีพญานาคราชชื่อ มุจลินท์ มาขดตัวเป็นฐานแล้วแสดงอิทธิฤทธิ์แผ่พังพานบังแดดบังฝนซึ่งก่อให้เกิด พระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้น ดังนี้เป็นต้น
4.ทิศเหนือ รักษาโดยท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ จอมยักษ์ ผู้เป็นเจ้าแห่งยักษ์ กุมภัณฑ์ รากษส แทตย์ ทานพ เปรต อสูร อสุรกาย อมนุษย์ ตลอดทั้งเป็นนายของบรรดาภูตผี ปีศาจทั้งปวง
ท้าวเวสสุวัณมี คทา หรือกระบองเป็นอาวุธ ซึ่งมีฤทธิ์เดชเป็นที่เกรงกลัวของบรรดายักษ์ อมนุษย์ และภูติผียิ่งนัก พระโบราณจารย์ ผู้เรืองวิชาจึงนิยมนำพระคาถามาจารึกในมีดหมอ ไม้เท้าครู หรือใช้เสกหวาย เสกก้านมะยม เสกโพล เสกว่าน เสกทราย เสกข้าวสาร เสกด้ายมงคลลงลูกประคำ หรือทำน้ำมนต์สำหรับเฆี่ยนขับผีดียิ่งนัก เรียกว่า พระคาถาอาวุธ 5 ประการ ดังนี้คือ1. อาวุธพระอินทร์ ได้แก่ สายฟ้า2. อาวุธพระยม ได้แก่ ตา3. อาวุธท้าววิรุฬหก (หรืออาฬะวะ จอมกุมภัณฑ์) ได้แก่ ผ้าโพกศีรษะ คือวรุณบาศนั่นเอง4. อาวุธท้าวเวสสุวัณ ได้แก่ คทา5. อาวุธพระพุทธเจ้า ได้แก่ พระธรรมจักร ซึ่งมีมากมายถึง 84,000 พระธรรมขันธ์ด้วยกันพระคาถาอาวุธ 5 ประการนี้ เป็นวิทยาคมทางด้านการขับภูตผีปีศาจ ดังจะกล่าวดังต่อไปนี้
พระคาถาอาวุธ 5 ประการสักกัสสะ วะชิราวุธัง ยมมัสสะ นัยยะสาวุธัง อาฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง เวสสุวัณณัสสะ คะทาวุธัง พุทธัสสะ ธัมมะจักกะวุธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ
นอกจากนี้ในพระปริตรหรือพระสูตรอันสำคัญต่าง ๆ ในเจ็ดตำนานหรือสิบสองตำนาน เช่น อาฎานาฎิยะปริตร หรือมหาสมัยสูตร และภาณยักษ์ ก็ได้กล่าวยกย่องอิทธิฤทธิ์ของท้าวเวสสุวัณเป็นอันมาก สูตรการลงยันต์ตรีนิสิงเห นั้นหมายถึง พระพุทธเจ้าพระธัมมะเจ้าพระอริยเจ้า และหัวใจพระคาถาต่าง ๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูง โดยท้าวเวสสุวัณได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งที่บรรจุอยู่ในยันต์ตรีนิสิงเห คือ เลข 1 ซึ่งมีสูตรเรียกและลงว่า มิเอกะยักขา (มิ คือยอดศีล เอกะ คือเลขหนึ่งและยักขาก็คือท้าวเวสสุวัณนั่นเอง) ท้าวเวสสุวัณ นอกจากจะเป็นจตุโลกบาลเจ้าแห่งยักษ์แล้ว ยังเป็นธนะบดี คือเจ้าแห่งทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายทั่วพื้นปฐพี อันเป็นสุดปรารถนาของมนุษย์ทุกคน ท่านท้าวเวสสุวัณจึงได้รับการเคารพสักการะอย่างสูง เพราะไม่ใช่แต่จะดีทางด้านป้องกันภูตผีเท่านั้น ยังให้ผลทางด้านโภคทรัพย์สูงแก่ผู้บูชาอีกด้วย ในทางพระพุทธศาสนาของไทยเรานั้น รู้จักท้าวเวสสุวัณมากันตั้งแต่โบราณ ที่เห็นกันมากที่สุดนั้น ได้แก่ภาพเขียนสีน้ำมันตามพระอุโบสถหรือพระวิหาร นัยว่าเพื่อให้ท่านเป็นผู้คุ้มครองรักษาพระพุทธรูปในพระอุโบสถ อันถือเป็นรูปจำลององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อมนุษย์ทั้งหลายจะรุกล้ำเข้าไปในบริเวณพระอุโบสถหรือพระวิหารไม่ได้ แม้กระทั่งซุ้มเรือนแก้วประดับองค์พระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ที่คนไทยภาคภูมิใจในพุทธศิลป์อันงดงามที่สุด ผู้สร้างยังได้จำลองรูปท้าวเวสสุวัณนั่งถือกระบองและด้านตรงข้ามเป็นรูปอาฬวกะยักษ์นั่งซ้ายขวารักษาองค์พระพุทธชินราชอีกด้วยในชีวิตความเป็นอยู่ตั้งแต่ครั้งโบราณมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เราก็ยังเห็นการเคารพบูชาท้าวเวสสุวัณกันทั่วไปตามชนบท แม้กระทั่งในเมืองเองก็ตาม เมื่อมีความเคารพนับถือเกิดขึ้นย่อมมีการจำลองรูปท้าวเวสสุวัณ เพื่อเป็นเครื่องบูชา บรรดาท่านโบราณาจารย์จึงได้ประดิษฐ์คิดค้นรูปแบบของท้าวเวสสุวัณขึ้น บางท่านอาจจะสร้างด้วยเนื้อผงบ้าง เนื้อชินบ้าง แกะสลักจากไม้บ้าง เป็นรูปปั๊มโลหะ หรือแม้กระทั่งทำเป็นเครื่องลางของขลัง เช่น มีดหมอ ผ้ายันต์ เป็นต้น แล้วลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกจนมีความเข้มขลัง รูปจำลองท้าวเวสสุวัณที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการพระเครื่องนั้น เห็นจะได้แก่ สำนักวัดสุทัศน์ เป็นลักษณะรูปหล่อจำลองท้าวเวสสุวัณสร้างโดย พระมงคลราชมุนีหรือพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) อันเป็นสมณศักดิ์เดิมของท่านก่อนได้รับเลื่อนเป็น พระมงคลราชมุนี ผู้สืบทอดการสร้างพระกริ่งจากสมเด็จพระสังฆราช (แพ) การสร้างรูปหล่อท้าวเวสสุวัณ มีมูลเหตุมาจากเมื่อครั้งที่ พระมงคลราชมุนีไปดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถวัดศรีจอมทอง (วัดตีนโนน) อ. พระพุทธบาท จ. สระบุรี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้บ้านเกิดของท่าน ประมาณปี พ.ศ. 2490 ในสมัยนั้น ยังมีความเชื่อในเรื่องภูติผีปีศาจอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องผีปอบมาสิงร่างคน กินตับไตไส้พุงจนคนที่ถูกสิงนั้นตายลงไป จะว่าไปแล้วบ้านเมืองในสมัยนั้นโดยเฉพาะชนบทที่ห่างไกล ยังคงด้อยความเจริญอยู่มาก การคมนาคมยังไปไม่ถึงเหมือนเช่นปัจจุบันนี้แต่สระบุรีก็เป็นป่าลึก ชุมนุมไปด้วยไข้ป่าทำให้ผู้คนต้องล้มตายลงไปปีละไม่ใช่น้อย ด้วยเหตุนี้พระมงคลราชมุนี จึงได้ดำริสร้างรูปจำลองท้าวเวสสุวัณขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่บรรดาชาวบ้านไว้เป็นเครื่องรางป้องกันภูติผีต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการบำรุงขวัญได้เป็นอย่างดี ลักษณะของท้าวเวสสุวัณพระมงคลราชมุนีจำลองแบบออกมาเป็นรูปยักษ์ยืนถือกระบอง แต่งองค์ทรงเครื่องมีลวดลายชัดเจนสวยงามมาก โดยเฉพาะลายกระบองจะชัดเจนเป็นพิเศษส่วนกระแสเนื้อนั้น พระมงคลราชมุนีได้นำชนวนที่ได้จากการเทพระกริ่งรุ่นก่อน ๆ ที่ท่านเทไว้มาเป็นเชื้อผสมลงไปในเนื้อโลหะ กระแสเนื้อหรือวรรณะที่ได้จะออกไปทางเหลืองทอง ถ้าเป็นพระที่ผ่านการใช้หรือสัมผัส ผิวจะออกเหลืองอมเขียวเล็กน้อย บางองค์เทด้วยเนื้อเงินล้วนก็มีแต่พบเห็นได้ยากเพราะมีจำนวนน้อย การเทจะเทแบบตันไม่มีกริ่ง ค่านิยมในรูปหล่อท้าวเวสสุวัณพระมงคลราชมุนี มีสนนราคาอยู่ในหลักพัน แต่ถ้าสวยจัด ๆ แบบคมชัดผิวเดิมมีคราบน้ำทองก็ต้องว่ากันเป็นหมื่น แล้วแต่ความพอใจ อย่างไรก็ตาม มีนักสะสมพระเครื่องกล่าวว่าท้าวเวสสุวัณที่พระมงคลราชมุนี สร้างขึ้นมานั้นมิได้มีแต่เฉพาะปี พ.ศ. 2493 เท่านั้น หากก่อนหน้านั้นท่านก็ได้จัดสร้างขึ้นมาแล้ว กล่าวคือท่านได้สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2482 หล่อเป็นรูปห้าเหลี่ยม เนื้อกระแสออกเหลือง ด้านหน้าเป็นรูปท้าวเวสสุวัณ ด้านหลังมีทั้งเรียบปรากฏรอยตะไบที่จารอักขระยันต์พุทธซ้อน หรือตอกโค้ดยันต์พุทธซ้อนและตอกโค้ดดอกจันก็พบ มีขนาดสูงประมาณ 3.7 เซนติเมตร กว้าง 1.5 เซนติเมตรและสร้างขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2483 เป็นรูปท้าวเวสสุวัณลอยองค์ มีขนาดสูงประมาณ 2.9 เซนติเมตร กระแสเนื้อเหลือง, เหลืองอมแดง และสร้างในครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2485 พิมพ์เดียวกับที่สร้างในปี พ.ศ. 2483 และครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2493บรรดาผู้ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าบูชาท้าวเวสสุวัณจะมีความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือน มีโชค มีลาภ ที่ดีที่สุดเห็นจะได้แก่ตรงที่ กันผี ได้นี่แหละ ใครที่คิดว่ากลัวผี ก็ให้รีบเร่งหาไว้เสีย
ที่มา : คเณศ์พร ฉบับรวมเล่ม 156-160, สำนักพิมพ์คเณศ์พร, พ.ศ. 2546-2547
ท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา ซึ่งเป็น การบำเพ็ญเพียรขององค์มหาเทพที่ สำเร็จ สัมฤทธิ์ผลอันยิ่งใหญ่มีความร่ำรวยและสุขล้นเพียบพร้อม ทรงมหิธานุภาพพละกำลังความยิ่งใหญ่ทุกอย่าง จึงแปลงองค์เป็นมหาเทพหน้าเทวดาเสวยสุขอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา การสำเร็จของหน้ายักษ์มีหน้า เป็น เทวดา อันมีความหมายว่า "เสด็จเสวยสุขอยู่บนทิพย์วิมาน"โดยนัยที่ผูกปริศนามาแต่เดิมว่า มีฤทธิ์สูงส่งทั้ง 2 ทางคือ สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และขจัด ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลไม่กล้าเข้ามารบกวนเพราะทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่งนักจึงมั่นใจได้ว่าท้าวเสสสุวัณ หน้ายักษ์ และหน้าเทวดา อยู่ในองค์เดียวกัน สามารถป้องกันภูติผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายตลอดทั้งบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชาในคัมภีร์โบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดต้องการความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้แก่ผู้บูชาท้าวเวสสุวัณอีกด้วย
คาถาบูชาท้าวเวสสุวัณ หรือ ท้าวกุเวรอิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโนท้าวเวสสุวรรณโณมรณังสุขัง อะหังสุคะโตนะโมพุทธายะท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกายักขะพันตา ภัทภูริโตเวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณนะโมพุทธายะ
การอัญเชิญท้าวเวสสุวัณเข้าสู่บ้านหากจะนำภาพท้าวเวสสุวัณก็ดี รูปหล่อ รูปบูชาหรือรูปหล่อขนาดเล็กห้อยคอ รวมไปถึงเหรียญ เมื่อจะนำเข้าบ้านให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ ตั้งจิตให้สงบ นึกถึงองค์ท้าวเวสสุวัณอธิษฐานเชิญท่านเข้าบ้าน นึกถึงภาวนาในใจ บอกเจ้าที่เจ้าทางแล้วขอบารมีท้าวเวสสุวัณ ให้คุ้มครองตนเองและบริวาร ให้เจริญรุ่งเรืองอยู่เย็นเป็นสุข จากนั้นเชิญท่านขึ้นสู่ที่ตั้งบูชาการบูชาท้าวเวสสุวัณ ทุกครั้งให้จุดธูป ๙ ดอกการถวายของ ได้แก่หมากพลู น้ำเปล่า ผลไม้ ๕ ชนิด ได้แก่ ส้ม ขนุน สัปปะรส ฟักทองมะพร้าวอ่อน
ตามตำนาน กล่าวว่า ท้าวเวสสุวัณ ท่าน จะออกตรวจตราดูความประพฤติของคนในโลกทุกวันขึ้น แรม ๑๕ ค่ำ ด้วยพระองค์เองในวันดังกล่าว แนะนำว่าให้นำดอกไม้ ธูปเทียน ประกอบผลไม้มงคล ๕ อย่าง ได้แก่ ส้ม ขนุน สัปปะรส ฟักทองมะพร้าวอ่อน น้ำเปล่า ๕ แก้ว ขึ้นบูชาในเช้าวันขึ้นหรือ แรม ๑๕ ค่ำนี้ให้สมาทานรักษา ศีล ๕ ใส่บาตรพระ ทำบุญบริจาคทาน สวดมนต์ยามค่ำก่อนนอนและสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวัณ จากนั้นพึงขอพรจากท่านจะสำเร็จตามที่ปรารถนาทุกประการ
------------------
แต่งองค์สีเขียว ทรงเครื่องทอง เงิน สีอื่นๆตามแต่ลูกค้าต้องการ
ราคาบูชาองค์ละ 999 บาท
รูปท้าวเวสสุวรรณ หล่อจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ แร่น้ำพี้ จ.อุตรดิตถ์
สีเงิน และสีทอง
ราคาบูชาองค์ละ 899 บาท
ท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่รุ่นนี้
กดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ >>> https://goo.gl/WzmpJ2
กดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ >>> https://goo.gl/WzmpJ2
------------------
การปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณ
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย หลวงพ่อทองคำ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตดิตถ์
การปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณ
ปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณโดย พระปลัด ชูชาติ อภิวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน , เจ้าคณะตำบลดงประคำ เขต ๑ จังหวัดพิษณุโลก
การปลุกเสก และพุทธภิเษกในงานใหญ่อื่นๆ โปรดคลิกดูที่ link นี้ https://utdid.com/amulet/0001109.html
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัน) หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า "ท้าวกุเวร" ถ้าในพระพุทธศาสนาจะเรียก "ท้าวไพสพ" เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย โดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวาร ว่ากันว่าอาณาเขตที่ ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองนั้นใหญ่มหาศาลมาก และ ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อันประกอบไปด้วย "พระอินทร์" (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก , "พระยม" (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้ และ "พระวรุณ" (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก และเพราะ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งอสูร คนโบราณจึงมักทำรูป ท้าวเวสสุวรรณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันภูตผีปีศาจไม่ให้มารบกวนเด็กเล็กได้ และนิยมทำผ้ายันต์รูป ท้าวเวสสุวรรณ รวมทั้งจำหลักรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้ที่มีดหมอของสัปเหร่อ เพื่อกำราบวิญญาณ และยังมีผู้พกพารูป ท้าวเวสสุวรรณ หรือทำเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณอีกด้วย ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วเรามักเห็นภาพ ท้าวเวสสุวรรณ ในรูปลักษณ์ของยักษ์ ยืนถือกระบองยาว หรือไม้เท้าขนาดใหญ่อยู่ระหว่างขา เหมือนมีขาสามขา เนื่องจากท้าวกุเวรมีรูปร่างพิการ จึงเป็นเหตุให้พระพรหมตั้งชื่อให้ว่า "ท้าวกุเวร" แต่ในวรรณคดีหลายฉบับ รวมทั้งตำราโบราณ ได้กล่าวตรงกันว่า อันที่จริงแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ เป็นยักษ์ที่มีผิวกายและพัสตราภรณ์สีเหลืองทอง จิตใจดีงาม และอุทิศตนถวายพิทักษ์รักษาพุทธสถาน และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น หากใครที่เดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่จังหวัดพิษณุโลก ก็อาจจะได้พบรูปหล่อปิดทองด้านซ้ายของฐานองค์พระพุทธชินราช ทำเป็นรูป ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อปกปักคุ้มครองพระพุทธศาสนา ไม่ให้หมู่มารมารังควาน รวมทั้งปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน ดังนั้น เราอาจจะเคยเห็นว่า วัดวาอารามต่าง ๆ หรือด้านหน้าถ้ำ จะมีรูปปั้้นยักษ์ 1 หรือ 2 ตน ยืนถือกระบองค้ำพื้นเฝ้าหน้าประตูโบสถ์ หรือวิหารที่เก็บของมีค่า โบราณวัตถุของทางวัดอยู่ ซึ่งหากยักษ์ที่ยืนปกปักรักษาอยู่มีตนเดียว นั่นก็คือ ท้าวเวสสุวรรณ นั่นเอง แต่ถ้าหากมี 2 ตน ก็คือบริวารของ ท้าวเวสสุวรรณ ที่จะมาคอยปกปักรักษาบริเวณวัด และนอกจาก ท้าวเวสสุวรรณ จะมีหน้าที่ปกปักรักษาพระพุทธศาสนาแล้ว ท้าวเวสสุวรรณ ยังมีหน้าที่จดความดีของคนทางทิศเหนือไปจารึก และประกาศให้เทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้รับรู้อีกด้วย
ตำนานความเชื่อของ ท้าวเวสสุวรรณ
ตามตำนานทางพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในอดีตชาติ ท้าวเวสสุวรรณ เคยเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย ด้วยความใจบุญจึงได้นำเงินทองไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ และด้วยกุศลผลบุญที่ ท้าวเวสสุวรรณ บำเพ็ญมานับหลายพันปี พระพรหม และ พระอิศวร จึงให้พรแก่ ท้าวเวสสุวรรณ ให้เป็นอมตะ และเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมจำหลักรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้เคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกหนึ่งประการ ตรงตามความหมายของชื่อ "ท้าวเวสสุวรรณ" คือ คำว่า "เวส" แปลว่า พ่อค้า จึงหมายถึงพ่อค้าอันมีทรัพย์ ได้แก่ ทองคำ
นอกจากนี้อีกหนึ่งตำนานในพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในชาติหนึ่ง ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเดิมชื่อ กุเวรพราหมณ์ ได้ทำบุญกุศลมาก จนชาติต่อมา ได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์ พระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร และทรงเป็นพระสหายกับเจ้าชายสิทธัตถะ ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร จนบรรลุเป็นโสดาบัน และได้ถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร ให้พระพุทธเจ้าได้เข้าประทับ จึงเป็นอานิสงส์ให้ได้วิมานอันสวยงาม และการที่พระเจ้าพิมพิสารถวายทานบ่อย ๆ จึงเป็นปัจจัยให้มีทิพยสมบัติมากมาย เมื่อได้เป็นเทวดาก็ทรงมีอำนาจมาก
ขณะที่ตามตำนานของพรามหณ์ เชื่อกันว่า ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร หรือ กุเปรัน เป็นพี่ชายต่างมารดาของทศกัณฐ์ แต่ไปนับถือท้าวมหาพรหมผู้เป็นเทวดา เพราะปรารถนาจะบำเพ็ญบารมี ทำให้ผิดใจกับพ่อซึ่งอยู่ในตระกูลยักษ์ โดยท้าวมหาพรหมทรงโปรดปรานท้าวกุเวร จึงประทานบุษบกให้ เพื่อให้ล่องลอยไปไหนมาได้ตามใจปรารถนา ก่อนที่ทศกัณฐ์จะไปแย่งบุษบกของท้าวกุเวรที่พระมหาพรหมประทานให้ไป และยึดกรุงลงกาที่ท้าวกุเวรปกครองอยู่มาได้สำเร็จ ท้าวมหาพรหมจึงสร้างนคร "อลกา" ให้ท้าวกุเวรใหม่
ประวัติท่านท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ)
ประวัติท้าวเวสสุวรรณ ตำนานท้าวเวสสุวัณ มีกำเนิดจากหลายตำนานรูปร่างหน้าตาของท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) จะเป็นที่คุ้นเคยในบ้านเราเป็นอย่างดี คือ เป็นรูปยักษ์ถือตะบองขนาดใหญ่ ด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษสและภูตผีปีศาจ
ท้าวเวสสุวรรณคือใคร ถ้าหากจะพูดถึง เจ้า หรือ นายแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลายแล้ว เรามักจะเอ่ยนาม ท้าวเวสสุวัณ หรือที่พราหมณ์เรียกกันว่า ท้าวกุเวร และทางพุทธเรียก ท้าวไพสพ ซึ่งสถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นล่างสุดของฉกามาพจร ชื่อสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาภูมิ
รูปร่างหน้าตาของ ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) จะเป็นที่คุ้นเคยในบ้านเราเป็นอย่างดี คือ เป็นรูปยักษ์ถือตะบองขนาดใหญ่ ด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษส และภูตผีปีศาจ คนโบราณจึง มักทำ รูปท้าวเวสสุวรรณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ภูตผีปีศาจมารบกวนเด็กเล็ก และนิยมทำ ผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) หรือจำหลักเป็นด้ามของมีดหมอที่สัปเหร่อใช้กำราบวิญญาณ เนื่องจากสมัยก่อนเวลาเผาศพก็ยกขึ้นกองฟอนแล้วใส่ไฟเผา พอร้อนเข้าเส้นเอ็นก็ยึดถึงขนาดลุกขึ้นนั่ง สัปเหร่อเลยต้องใช้มีดกรีดตามเส้นเอ็นก่อน ทีนี้พอยกขึ้นเผาศพก็จะไม่กระดุกกระดิก เลยเป็นความเชื่อว่ามีดหมอจำหลักรูปท้าวเวสสุวัณสามารถปราบผีได้
คติความเชื่อ ตำนานท้าวเวสสุวรรณ
ประวัติท้าวเวสสุวรรณ ตำนานท้าวเวสสุวัณ คติความเชื่อแบบไตรภูมิ เชื่อว่ามีท้าวโลกบาลประจำอยู่ 4 ทิศ จึงนิยมจำหลักอยู่ตามบานประตูโบสถ์ วิหาร เรียกว่า ทวารบาล หมายถึง ผู้ดูแลประตู บางครั้งพบทวารบาลบางแห่งเป็นแบบจีน แทนที่จะเป็นรูปเทวดาแบบไทยถือพระขรรค์ กลับเป็นเทวดาจีนคล้ายตัวงิ้ว ถือ หอก ดาบ หรือง้าว เหยียบอยู่บนสิงโตจีน เราเรียกว่า เสี้ยวกาง หรือ เซี่ยวกาง เข้าใจว่าเป็นอิทธิพลของจีนที่เข้ามาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ หัว รัชกาลที่ 3 เนื่องจากพระองค์นิยมงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบจีน ท้าวเวสสุวรรณ ของ ท่านเจ้าประคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวราราม
ท้าวจตุโลกบาลประจำทิศทั้งสี่จะประกอบด้วย
ทิศตะวันออก พราหมณ์เรียก พระอินทร์ พุทธเรียก ท้าวธตรฐ มี คนธรรพ์ เป็นบริวาร
ทิศตะวันตก พราหมณ์เรียก พระวรุณ พุทธเรียก ท้าววิรูปักษ์ มีนาค ครุฑ และเทวดา เป็นบริวาร
ทิศใต้ พราหมณ์เรียก พระยม พุทธเรียก ท้าววิรุฬหก มี กุมภัณฑ์ เป็นยักษ์มีอัณฑะใหญ่เท่าหม้อตาลเป็นบริวาร
และ ทิศเหนือ ได้แก่ ท้าวเวสสุวรรณ พราหมณ์เรียก ท้าวกุเวร พุทธเรียก ท้าวไพสพ มี อสูร รากษส และภูตผีปีศาจ เป็นบริวาร
ท้าวกุเวรนอกจากนี้ ในตำราโบราณและงานวรรณคดีกล่าวตรงกันว่า ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เป็นยักษ์ที่มีพัสตราภรณ์และผิวกายสีเหลืองทอง จิตใจดีงาม ดำรงอยู่ในสัตยธรรม ถึงขนาดอุทิศตนถวายพิทักษ์รักษาพุทธสถาน และองค์พระพุทธเจ้า เช่น รูปหล่อปิดทองด้านซ้ายของฐานองค์พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ก็ทำเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ส่วนด้านขวาเป็นยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อ อา ฬาวกยักษ์ เหตุที่เรียกกันว่า ท้าวกุเวร เนื่องจากพระพรหมเห็นว่ามีรูปร่างไม่ดี ร่างกายพิการต้องถือไม้เท้า จึงตั้งชื่อให้ดังนั้น ที่บ้านเรามาจำหลักเป็นยักษ์ถือตะบองยันพื้น ก็คงจะมีเค้าเงื่อนมาจากเรื่องดังกล่าว
ท้าวเวสสุวรรณ
ความหมายของชื่อ ท้าวเวสสุวัณ นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน
บ้านเรารู้จักกันในชื่อ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หรือในชื่อ ธนบดี แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ ธเนศวร แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวง เทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือ จำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย คาถาท้าวเวสสุวรรณ ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ วัดพราหมณี วัดหลวงพ่อปาดแดง รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ เจ้าคุณศรีสนธิ์ วัดสุทัศน์
วัตถุมงคลที่นิยมทำเป็นรูปท้าวเวสสุวัณก็จะมีมากมาย อาทิ ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ของท่านเจ้าประคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นต้น
คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง :โดย ราม วัชรประดิษฐ์
ตามตำนานของฮินดู
ท้าวเวสสุวัณ เป็นบุตรพระวิศระวัสมุนี กับนางอิฑาวิฑา และเพราะว่ามีร่างกายที่งดงามจึงมีนามว่า กุเวร ซึ่งแปลว่า ตัวขี้ริ้ว
กุเวร หรือท้าวเวสสุวัณนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นยักษ์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็เป็นยักษ์ฝ่ายธรรมะ ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมเพียรบำเพ็ญตบะอยู่หลายพันปี จนได้รับพระพรจากท้าวมหาพรหมให้เป็น พระธนะบดี คือเจ้าแห่งทรัพย์ทั้งปวงและเป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งหลาย พระวิศระวัสมุนี เป็นบิดาให้ท้าวเวสสุวัณไปอยู่นครลงกา ซึ่งพระวิศวกรรมสร้างให้เป็นที่อยู่เพราะเกรงกลัวฤทธิ์เดชของพระนารายณ์ นครลงกาขณะนั้นจึงรกร้างว่างเปล่าลงท้าวเวสสุวัณจึงได้ปกครองนครลงกาสืบมา ต่อมา ท้าวสุมาลีซึ่งเป็นยักษ์ตนหนึ่งหนีพระนารายณ์ไปอยู่ใต้บาดาลคิดอุบายจะเอานครลงกาคืน จึงวางแผนนำธิดาชื่อนิกษาไปถวายให้เป็นภรรยาพระวิศวะวัสมุนี แล้วได้เกิดบุตรร่วมกัน 4 ตน คือ 1. ท้าวราพณาสูร (ทศกัณฑ์) 2. กุมภกรรณ 3. วิภิษณ์ (พิเภษณ์) 4. นางศูรปนขา ด้วยเหตุนี้ท้าวเวสสุวัณจึงมีศักดิ์เป็นพี่ของทศกัณฑ์ เพราะว่าเป็นลูกร่วมบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดากัน ต่อมา นางนิกษาเห็นความสง่าของท้าวเวสสุวัณเวลาขึ้นบุษบก ที่ได้รับการประทานจากท้าวมหาพรหม ลอยไปบนอากาศเพื่อเข้าเฝ้าพระบิดาด้วยความสง่างาม นางยักษ์จึงมีความอิจฉาริษยาตามแบบฉบับของแม่เลี้ยงทั่วไปที่ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีเกินลูกของตัว เลยยุยงให้ทศกัณฑ์ตั้งใจบำเพ็ญตบะอยู่หลายพันปี จนได้รับการเมตตาจากท้าวมหาพรหมประทานพรให้เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลาย แล้วจึงยกทัพไปแย่งนครลงกา และบุษบกได้จากท้าวเวสสุวัณ ผู้เป็นพี่ชายพ่อเดียวกันแท้ ๆ แต่ท้าวเวสสุวัณถึงแม้จะเป็นยักษ์ก็เป็นยักษ์ฝ่ายธรรมะ และรักสันติไม่ต้องการก่อให้เกิดศึกสายเลือด จึงทิ้งนครลงกาและบุษบกให้ทศกัณฑ์แล้วพาบริวารหนีออกจากนครลงกาไปหาที่อยู่ใหม่ ท่านท้าวมหาพรหม เห็นความดีของท้าวเวสสุวัณ จึงให้พรเป็น อมตะ ไม่มีการตายและเป็นโลกบาล ประจำทิศอุดร (ทิศเหนือ) เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ปกครองสวรรค์ชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นดินแดนน่าอยู่ เพราะมีรมณียสถานอันสำราญปราศจากความทุกข์โศกโรคภัยและความเหนื่อยยาก ปราศจากความวิตก ความหิว และความกลัวต่าง ๆ ทั้งยังมีอายุยืนถึงหมื่นปี มีสวนสวรรค์ชื่อ เจตระรถ บรรดาต้นไม้ประดับในสวนล้วนรโหฐาน มีใบเป็นผ้าเนื้อดี มีดอกเป็นอัญมณีล้ำค่า และมีผลเป็นนางกินรีงดงาม พระวิศวกรรมเป็นผู้สร้างมหาปราสาทให้อยู่อย่างโอฬารและวิจิตตระการตา มีกินนรและนางกินรีเป็นนางบำเรอ
สวรรค์ชั้นที่ 1 นี้เรียกว่า สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ตั้งอยู่ ณ เขาพระสุเมรุกลางจักรวาล โดยมียอดเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 พระอินทร์เป็นผู้ปกครอง (สวรรค์มี 6 ชั้น) สาเหตุที่เรียกสวรรค์ชั้นที่ 1 นี้ว่า จาตุมหาราชิกา ก็เพราะว่ามีจตุมหาราชเป็นผู้ปกครอง 4 องค์ดังที่เราเรียกว่า จตุโลกบาล คือมีหน้าที่รักษาโลกมนุษย์ใน 4 ทิศ ได้แก่
1.ทิศตะวันออก รักษาโดยท้าวธตรฐ จอมคนธรรพ์ ซึ่งคนธรรพ์นี้เป็นลูกครึ่งคนกับเทวดา เป็นผู้รักษาต้นโสมจึงมีความชำนาญการปรุงยา และเป็นนักษัตรคือมีความรอบรู้การดูดวงดาว เชี่ยวชาญดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นชาวสวรรค์ที่ชำนาญการขับร้องและเล่นดนตรี ดีด สี ตี เป่า จึงมีหน้าที่เป็นพระภูมิรักษาห้องบ่าวสาวอีกด้วย
2.ทิศใต้ รักษาโดยท้าววิรุฬหก จอมกุมภัณฑ์ ซึ่งความจริงท้าววิรุฬหกนี้เป็นจอมเทวดาองค์หนึ่ง มีนามว่า พระพิรุฬห์ เป็นเจ้าแห่งน้ำทั้งปวง เป็นเทวราชที่มีฤทธิ์ยิ่งกว่าเทพเจ้าองค์อื่น ๆ จึงเป็นผู้สร้างและบำรุงเทวโลกและมนุษย์โลก มีอำนาจและรอบรู้ในสิ่งทั้งปวงเพราะเป็นผู้ส่งเทวทูตไปทั่วทุกสารทิศเพื่อจดจำการกระทำของเทวดา มนุษย์และอสูรทั้งปวง ท่านเป็นผู้ที่เกลียดชังการกล่าวเท็จ และมีผู้ผิดสัญญาจึงมักจะลงโทษให้เจ็บป่วยไข้ หรือนำวรุณบาศคล้องคอไปลงทัณฑ์ แต่พระองค์เป็นผู้มีเมตตาถ้าผู้ใดสำนึกผิดก็จะผ่อนปรนให้ และผู้ใดประพฤติดีอยู่ในทำนองคลองธรรมท่านก็จะอำนวยความสุขสวัสดี ช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้ในบางคราว
3.ทิศตะวันตก รักษาโดยท้าววิรูปักษ์ จอมนาค คือมีบริวารเป็นมนุษย์ผสมนาคมีหน้าที่รักษา สมณะชีพราหมณ์และมนุษย์ผู้รักษาศีลภาวนาทั่วไป ซึ่งนาคนั้นมีความสำคัญไม่น้อย เคยขดตัวทำเป็นบัลลังก์ให้พระวิษณุบรรทมอยู่ในเกษียรสมุทร เคยให้เป็นเชือกผูกเรือไว้กับกระโดงปลาใหญ่ ซึ่งพระนารายณ์อวตารเมื่อคราวน้ำท่วมโลก และเป็นเชือกพันกับภูเขาในการทำน้ำอมฤต ทั้งพระยานาคยังเป็นสร้อยสังวาลของพระอิศวรอีกด้วย ฯลฯ นี่ว่ากันตามคัมภีร์รามายณะของพราหมณ์
ส่วนในสมัย พระสมณโคดมบรมพุทธเจ้าของเราก็มีนาค มาเกี่ยวข้องหลายคราว เช่น เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นจิก ก็มีพญานาคราชชื่อ มุจลินท์ มาขดตัวเป็นฐานแล้วแสดงอิทธิฤทธิ์แผ่พังพานบังแดดบังฝนซึ่งก่อให้เกิด พระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้น ดังนี้เป็นต้น
4.ทิศเหนือ รักษาโดยท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ จอมยักษ์ ผู้เป็นเจ้าแห่งยักษ์ กุมภัณฑ์ รากษส แทตย์ ทานพ เปรต อสูร อสุรกาย อมนุษย์ ตลอดทั้งเป็นนายของบรรดาภูตผี ปีศาจทั้งปวง
ท้าวเวสสุวัณมี คทา หรือกระบองเป็นอาวุธ ซึ่งมีฤทธิ์เดชเป็นที่เกรงกลัวของบรรดายักษ์ อมนุษย์ และภูติผียิ่งนัก พระโบราณจารย์ ผู้เรืองวิชาจึงนิยมนำพระคาถามาจารึกในมีดหมอ ไม้เท้าครู หรือใช้เสกหวาย เสกก้านมะยม เสกโพล เสกว่าน เสกทราย เสกข้าวสาร เสกด้ายมงคลลงลูกประคำ หรือทำน้ำมนต์สำหรับเฆี่ยนขับผีดียิ่งนัก เรียกว่า พระคาถาอาวุธ 5 ประการ ดังนี้คือ
1. อาวุธพระอินทร์ ได้แก่ สายฟ้า
2. อาวุธพระยม ได้แก่ ตา
3. อาวุธท้าววิรุฬหก (หรืออาฬะวะ จอมกุมภัณฑ์) ได้แก่ ผ้าโพกศีรษะ คือวรุณบาศนั่นเอง
4. อาวุธท้าวเวสสุวัณ ได้แก่ คทา
5. อาวุธพระพุทธเจ้า ได้แก่ พระธรรมจักร ซึ่งมีมากมายถึง 84,000 พระธรรมขันธ์ด้วยกัน
พระคาถาอาวุธ 5 ประการนี้ เป็นวิทยาคมทางด้านการขับภูตผีปีศาจ ดังจะกล่าวดังต่อไปนี้
พระคาถาอาวุธ 5 ประการ
สักกัสสะ วะชิราวุธัง ยมมัสสะ นัยยะสาวุธัง อาฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง เวสสุวัณณัสสะ คะทาวุธัง พุทธัสสะ ธัมมะจักกะวุธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ
นอกจากนี้ในพระปริตรหรือพระสูตรอันสำคัญต่าง ๆ ในเจ็ดตำนานหรือสิบสองตำนาน เช่น อาฎานาฎิยะปริตร หรือมหาสมัยสูตร และภาณยักษ์ ก็ได้กล่าวยกย่องอิทธิฤทธิ์ของท้าวเวสสุวัณเป็นอันมาก สูตรการลงยันต์ตรีนิสิงเห นั้นหมายถึง พระพุทธเจ้าพระธัมมะเจ้าพระอริยเจ้า และหัวใจพระคาถาต่าง ๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูง โดยท้าวเวสสุวัณได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งที่บรรจุอยู่ในยันต์ตรีนิสิงเห คือ เลข 1 ซึ่งมีสูตรเรียกและลงว่า มิเอกะยักขา (มิ คือยอดศีล เอกะ คือเลขหนึ่งและยักขาก็คือท้าวเวสสุวัณนั่นเอง)
ท้าวเวสสุวัณ นอกจากจะเป็นจตุโลกบาลเจ้าแห่งยักษ์แล้ว ยังเป็นธนะบดี คือเจ้าแห่งทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายทั่วพื้นปฐพี อันเป็นสุดปรารถนาของมนุษย์ทุกคน ท่านท้าวเวสสุวัณจึงได้รับการเคารพสักการะอย่างสูง เพราะไม่ใช่แต่จะดีทางด้านป้องกันภูตผีเท่านั้น ยังให้ผลทางด้านโภคทรัพย์สูงแก่ผู้บูชาอีกด้วย
ในทางพระพุทธศาสนาของไทยเรานั้น รู้จักท้าวเวสสุวัณมากันตั้งแต่โบราณ ที่เห็นกันมากที่สุดนั้น ได้แก่ภาพเขียนสีน้ำมันตามพระอุโบสถหรือพระวิหาร นัยว่าเพื่อให้ท่านเป็นผู้คุ้มครองรักษาพระพุทธรูปในพระอุโบสถ อันถือเป็นรูปจำลององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อมนุษย์ทั้งหลายจะรุกล้ำเข้าไปในบริเวณพระอุโบสถหรือพระวิหารไม่ได้ แม้กระทั่งซุ้มเรือนแก้วประดับองค์พระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ที่คนไทยภาคภูมิใจในพุทธศิลป์อันงดงามที่สุด ผู้สร้างยังได้จำลองรูปท้าวเวสสุวัณนั่งถือกระบองและด้านตรงข้ามเป็นรูปอาฬวกะยักษ์นั่งซ้ายขวารักษาองค์พระพุทธชินราชอีกด้วยในชีวิตความเป็นอยู่ตั้งแต่ครั้งโบราณมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เราก็ยังเห็นการเคารพบูชาท้าวเวสสุวัณกันทั่วไปตามชนบท แม้กระทั่งในเมืองเองก็ตาม เมื่อมีความเคารพนับถือเกิดขึ้นย่อมมีการจำลองรูปท้าวเวสสุวัณ เพื่อเป็นเครื่องบูชา บรรดาท่านโบราณาจารย์จึงได้ประดิษฐ์คิดค้นรูปแบบของท้าวเวสสุวัณขึ้น บางท่านอาจจะสร้างด้วยเนื้อผงบ้าง เนื้อชินบ้าง แกะสลักจากไม้บ้าง เป็นรูปปั๊มโลหะ หรือแม้กระทั่งทำเป็นเครื่องลางของขลัง เช่น มีดหมอ ผ้ายันต์ เป็นต้น แล้วลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกจนมีความเข้มขลัง
รูปจำลองท้าวเวสสุวัณที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการพระเครื่องนั้น เห็นจะได้แก่ สำนักวัดสุทัศน์ เป็นลักษณะรูปหล่อจำลองท้าวเวสสุวัณสร้างโดย พระมงคลราชมุนีหรือพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) อันเป็นสมณศักดิ์เดิมของท่านก่อนได้รับเลื่อนเป็น พระมงคลราชมุนี ผู้สืบทอดการสร้างพระกริ่งจากสมเด็จพระสังฆราช (แพ) การสร้างรูปหล่อท้าวเวสสุวัณ มีมูลเหตุมาจากเมื่อครั้งที่ พระมงคลราชมุนีไปดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถวัดศรีจอมทอง (วัดตีนโนน) อ. พระพุทธบาท จ. สระบุรี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้บ้านเกิดของท่าน ประมาณปี พ.ศ. 2490 ในสมัยนั้น ยังมีความเชื่อในเรื่องภูติผีปีศาจอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องผีปอบมาสิงร่างคน กินตับไตไส้พุงจนคนที่ถูกสิงนั้นตายลงไป จะว่าไปแล้วบ้านเมืองในสมัยนั้นโดยเฉพาะชนบทที่ห่างไกล ยังคงด้อยความเจริญอยู่มาก การคมนาคมยังไปไม่ถึงเหมือนเช่นปัจจุบันนี้แต่สระบุรีก็เป็นป่าลึก ชุมนุมไปด้วยไข้ป่าทำให้ผู้คนต้องล้มตายลงไปปีละไม่ใช่น้อย ด้วยเหตุนี้พระมงคลราชมุนี จึงได้ดำริสร้างรูปจำลองท้าวเวสสุวัณขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่บรรดาชาวบ้านไว้เป็นเครื่องรางป้องกันภูติผีต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการบำรุงขวัญได้เป็นอย่างดี ลักษณะของท้าวเวสสุวัณพระมงคลราชมุนีจำลองแบบออกมาเป็นรูปยักษ์ยืนถือกระบอง แต่งองค์ทรงเครื่องมีลวดลายชัดเจนสวยงามมาก โดยเฉพาะลายกระบองจะชัดเจนเป็นพิเศษ
ส่วนกระแสเนื้อนั้น พระมงคลราชมุนีได้นำชนวนที่ได้จากการเทพระกริ่งรุ่นก่อน ๆ ที่ท่านเทไว้มาเป็นเชื้อผสมลงไปในเนื้อโลหะ กระแสเนื้อหรือวรรณะที่ได้จะออกไปทางเหลืองทอง ถ้าเป็นพระที่ผ่านการใช้หรือสัมผัส ผิวจะออกเหลืองอมเขียวเล็กน้อย บางองค์เทด้วยเนื้อเงินล้วนก็มีแต่พบเห็นได้ยากเพราะมีจำนวนน้อย การเทจะเทแบบตันไม่มีกริ่ง ค่านิยมในรูปหล่อท้าวเวสสุวัณพระมงคลราชมุนี มีสนนราคาอยู่ในหลักพัน แต่ถ้าสวยจัด ๆ แบบคมชัดผิวเดิมมีคราบน้ำทองก็ต้องว่ากันเป็นหมื่น แล้วแต่ความพอใจ
อย่างไรก็ตาม มีนักสะสมพระเครื่องกล่าวว่าท้าวเวสสุวัณที่พระมงคลราชมุนี สร้างขึ้นมานั้นมิได้มีแต่เฉพาะปี พ.ศ. 2493 เท่านั้น หากก่อนหน้านั้นท่านก็ได้จัดสร้างขึ้นมาแล้ว กล่าวคือท่านได้สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2482 หล่อเป็นรูปห้าเหลี่ยม เนื้อกระแสออกเหลือง ด้านหน้าเป็นรูปท้าวเวสสุวัณ ด้านหลังมีทั้งเรียบปรากฏรอยตะไบที่จารอักขระยันต์พุทธซ้อน หรือตอกโค้ดยันต์พุทธซ้อนและตอกโค้ดดอกจันก็พบ มีขนาดสูงประมาณ 3.7 เซนติเมตร กว้าง 1.5 เซนติเมตร
และสร้างขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2483 เป็นรูปท้าวเวสสุวัณลอยองค์ มีขนาดสูงประมาณ 2.9 เซนติเมตร กระแสเนื้อเหลือง, เหลืองอมแดง และสร้างในครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2485 พิมพ์เดียวกับที่สร้างในปี พ.ศ. 2483 และครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2493
บรรดาผู้ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าบูชาท้าวเวสสุวัณจะมีความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือน มีโชค มีลาภ ที่ดีที่สุดเห็นจะได้แก่ตรงที่ กันผี ได้นี่แหละ ใครที่คิดว่ากลัวผี ก็ให้รีบเร่งหาไว้เสีย
ที่มา : คเณศ์พร ฉบับรวมเล่ม 156-160, สำนักพิมพ์คเณศ์พร, พ.ศ. 2546-2547
ท้าวเวสสุวรรณหน้าเทวดา ซึ่งเป็น การบำเพ็ญเพียรขององค์มหาเทพที่ สำเร็จ สัมฤทธิ์ผลอันยิ่งใหญ่มีความร่ำรวยและสุขล้นเพียบพร้อม ทรงมหิธานุภาพพละกำลังความยิ่งใหญ่ทุกอย่าง จึงแปลงองค์เป็นมหาเทพหน้าเทวดาเสวยสุขอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา การสำเร็จของหน้ายักษ์มีหน้า เป็น เทวดา อันมีความหมายว่า "เสด็จเสวยสุขอยู่บนทิพย์วิมาน"โดยนัยที่ผูกปริศนามาแต่เดิมว่า มีฤทธิ์สูงส่งทั้ง 2 ทางคือ สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และขจัด ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลไม่กล้าเข้ามารบกวนเพราะทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่งนักจึงมั่นใจได้ว่าท้าวเสสสุวัณ หน้ายักษ์ และหน้าเทวดา อยู่ในองค์เดียวกัน สามารถป้องกันภูติผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายตลอดทั้งบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชาในคัมภีร์โบราณได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดต้องการความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้แก่ผู้บูชาท้าวเวสสุวัณอีกด้วย
คาถาบูชาท้าวเวสสุวัณ หรือ ท้าวกุเวร
อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโนท้าวเวสสุวรรณโณ
มรณังสุขัง อะหังสุคะโตนะโมพุทธายะ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกายักขะพันตา ภัทภูริโต
เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณนะโมพุทธายะ
การอัญเชิญท้าวเวสสุวัณเข้าสู่บ้านหากจะนำภาพท้าวเวสสุวัณก็ดี รูปหล่อ รูปบูชาหรือรูปหล่อขนาดเล็กห้อยคอ รวมไปถึงเหรียญ เมื่อจะนำเข้าบ้านให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ ตั้งจิตให้สงบ นึกถึงองค์ท้าวเวสสุวัณอธิษฐานเชิญท่านเข้าบ้าน นึกถึงภาวนาในใจ บอกเจ้าที่เจ้าทางแล้วขอบารมีท้าวเวสสุวัณ ให้คุ้มครองตนเองและบริวาร ให้เจริญรุ่งเรืองอยู่เย็นเป็นสุข จากนั้นเชิญท่านขึ้นสู่ที่ตั้งบูชาการบูชาท้าวเวสสุวัณ ทุกครั้งให้จุดธูป ๙ ดอกการถวายของ ได้แก่หมากพลู น้ำเปล่า ผลไม้ ๕ ชนิด ได้แก่ ส้ม ขนุน สัปปะรส ฟักทองมะพร้าวอ่อน
ตามตำนาน กล่าวว่า ท้าวเวสสุวัณ ท่าน จะออกตรวจตราดูความประพฤติของคนในโลกทุกวันขึ้น แรม ๑๕ ค่ำ ด้วยพระองค์เองในวันดังกล่าว แนะนำว่าให้นำดอกไม้ ธูปเทียน ประกอบผลไม้มงคล ๕ อย่าง ได้แก่ ส้ม ขนุน สัปปะรส ฟักทองมะพร้าวอ่อน น้ำเปล่า ๕ แก้ว ขึ้นบูชาในเช้าวันขึ้นหรือ แรม ๑๕ ค่ำนี้ให้สมาทานรักษา ศีล ๕ ใส่บาตรพระ ทำบุญบริจาคทาน สวดมนต์ยามค่ำก่อนนอนและสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวัณ จากนั้นพึงขอพรจากท่านจะสำเร็จตามที่ปรารถนาทุกประการ
------------------