พญาครุฑห้อยคอ รุ่น รุ่งเรือง อำนาจ บารมี พุทธาภิเษก4พ.ย.60
พญาครุฑห้อยคอ
พญาครุฑ รุ่น รุ่งเรือง อำนาจ บารมี พุทธาภิเษก4พ.ย.60 วัดเขาลังพัฒนา อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
ครุฑ พญาครุฑ
ความเชื่อพญาครุฑ ผู้ที่ห้อยบูชาพญาครุฑ มีความเชื่อว่า
1.เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
2.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
3.เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
4.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
5.เป็นเมตตามหานิยม
6.นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
7.ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
8.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
ด้านหลังพญาครุฑ ยันต์ฉัตรเพชร นี้โดดเด่นด้านโชคลาภการเงิน ทรัพย์ร่ำรวยเงินทองทรัพย์สินไม่ขาดไม่ยากจน แก้ดวงชะตาที่ตกต่ำจากร้ายกลับกลายเป็นดี และเสริมดวงดวงชะตาหากดีอยู่แล้วก็จะดียิ่งๆขึ้นไป ยันต์ฉัตรเพชรค่ายกล มียันต์นี้ไว้เป็นตาข่ายครอบคลุมป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ จึงเรียกได้ว่าเป็นตาข่ายเพชรหรือฉัตรเพชรนั่นเอง
ด้านหน้า พญาครุฑ ด้านหลัง ยันต์ฉัตรเพชร
ราคาบูชาต่อองค์ 299 บาท
ลดเหลือ 250 บาท
อัดกรอบ 299 บาท
อัดกรอบพลาสติกกันน้ำ 299 บาท
พญาครุฑ ปั้มมวลสารแบบลงรัก สีขาวคือรักน้ำเกลี้ยง , สีน้ำตาลคือรักดำทำเก่า , สีดำคือรักดำทำเก่า พญาครุฑบรรจุมวลสารมากถึง 70 เปอร์เซนต์ต่อองค์ พญาครุฑรุ่นที่เน้นมวลสารที่ดีมากที่สุด ราคาบูชาต่อองค์ 299 บาท
ประวัติ คาถา และวิธีบูชา พญาครุฑ เลื่อนดูด้านล่างสุดหน้านี้
------------------
แจกฟรี
ผู้สั่งบูชาพระเครื่อง ซึ่งมีกว่า 32 พิมพ์ รุ่น พุทธาภิเษก 4 พ.ย.60 วัดเขาลังพัฒนา อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พิมพ์ใดก็ได้ ทุก 2 องค์ จะได้รับฟรี หลวงปู่ทวด ทรงพญานาคแร่เหล็กน้ำพี้ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ฟรี1องค์ เลือกที่นี่มีวัตถุมงคลพิมพ์อะไรบ้าง
ดูพระรุ่นนี้ทั้งหมดทุกพิมพ์ กดดูที่นี่ >>> https://utdid.com/amulet/0001081.html
หลวงปู่ทวดทรงพญานาค
------------------
พุทธาภิเษก 4 พ.ย.60
วัดเขาลังพัฒนา อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
ร้านวรันณ์ธร จ.อุตรดิตถ์ เป็นเจ้าภาพ ในงานพุทธาภิเษก
ภาพล่างสุด เจ้าของร้านวรันณ์ธร และญาติเจ้าของร้าน
------------------
มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เป็นมวลสาร
มวลสารที่ใช้สร้างองค์พระ องค์เทพ บรรจุในองค์พระองค์เทพ
1. พระบรมสารีริกธาตุ รวมสันฐาน (บรรจุไว้ที่อกพระ และอกเทพ)
มวลสารที่ใช้สร้างพระผง เป็นมวลสารเน้นด้านพุทธคุณที่ดีที่สุด
มวลสารหินพระธาตุ (จำนวนมวลสาร 360 ก.ก.)
เขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำหินพระธาตุทุกถ้ำมาบดเป็น มวลสารมากที่สุด (จำนวนมวลสาร 360 ก.ก.) หินพระธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า (เขาสามร้อยยอด) ความเชื่อตามสีของหินพระธาตุ...คตหิน หรือไข่ในหินทุกสี หรือที่นิยมเรียกว่าหินพระธาตุนั้นจะเป็นชั้นๆ เมื่อผ่าออกภายในจะมีลักษณะเป็นวงซ้อนกัน คล้ายกับพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด จัดเป็นธาตุกายสิทธิ์ตามธรรมชาติ มีอิทธฤทธิ์พลังฤทธิ์ โดยไม่ต้องผ่านพิธีกรรมทางศาสนา คดหินสามร้อยยอดเป็นหินที่สะสมพลังงานธรรมชาติ จากพระอาทิตย์ พระจันทร์ ทะเล ขุนเขา และฟ้า ดิน นานนับล้านปีๆ และช่วยให้ผู้สักการะบูชาได้รับคุณประโยชน์ต่างๆ ตามลักษณะสีของคดฝังอยู่ในหินดังนี้
1) หินพระธาตุออกวรรณะสีแดง
มีพลังพิเศษทางด้านเสริมสร้างอำนาจบารมี ความเจริญรุ่งเรือง ทางเดช ทางฤทธิ์ มหาอำนาจ คุ้มครองผองภัย เป็นหินที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีบริวาร มีศรี มีอำนาจ จะมีเดชา นุภาพ ไปที่ไหนใครก็ย่ำเกรง สีแดงของหิน ย่อมหมายถึงสรรพมงคล ทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เหมาะสำหรับ นายทหาร ตำรวจ ผู้บริหาร ผู้นำต่างๆ เจ้าของธุรกิจ ฯ
2) หินพระธาตุออกวรรณะสีน้ำผึ้ง
มีพลังพิเศษทางด้านความคุ้มครองสูง ความเมตตาพรหมวิหาร ร่มเย็นเป็นสุข เป็นที่รักใคร่ ของคนทั่วไป ความโดดเด่นอยู่ที่พลังอำนาจในการสร้างความมั่นคงให้กับจิตใจ สร้างความมั่นคงให้กับ ธุรกิจการงานของคุณ เหมาะกับเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย มีไว้หนุนกิจการไม่ให้สั่นคอน
3) หินพระธาตุออกวรรณะสีขาว
เป็นหินพระธาตุที่มีบารมีธรรมสูงส่งมาก ให้พลังด้านบวกสูง ให้จิตสงบ ร่มเย็นเป็นสุข เย็นใจ มีความเจริญในธรรม มีความก้าวหน้าในสมาธิภาวนา มีพลังแห่งความเมตตาสูง ความพิเศษอยู่ที่พลังบารมีธรรมในตัวหิน ทำให้ผู้ที่มีหินสีขาวไว้บูชา เกิดความเย็นใจ ใจเป็นสมาธิได้เร็ว เจริญเมตตาพรหมวิหารได้ดี เหมาะแก่ผู้ที่ปฏิบัติธรรม ชอบสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิ
4) หินพระธาตุออกวรรณะสีดำ
ถือว่าเป็นหินพระธาตุที่มีเหล็กไหล(ละอองเหล็กไหล)เป็นส่วนประกอบอยู่ ดูเข้มขลัง มีพลังวิเศษทางด้านคุ้มครอง คงกะพัน เป็นมหาอุต และยังช่วยในเรื่องบำบัดโรคภัย ไข้เจ็บได้ดี ป้องกันคุณไสยต่างๆได้ดีมากๆ ใครมีไว้นับว่าเป็นโชควาสนา บารมีของผู้นั้น
5) หินพระธาตุออกวรรณะสีน้ำตาล
เป็นหินที่ให้พลังอำนาจความเชื่อมั่น ทำให้สุขุมรอบคอบ มีความกล้าหาญภายในจิตใจ กล้าที่จะตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง เสริมสร้างทางด้านสุขภาพได้ดี เพราะมีพลังในการบำบัดสูง เหมาะสำหรับ นักแสดง นักพูด ผู้ทีใช้วาทะเป็นประจำ ผู้ขายของ แม่ค้าและผู้ที่เจ็บป่วยบ่อยๆ
บทความนี้คัดลอกจากหนังสือธรรมปกิณกะ เล่ม 1 ที่เขียนขึ้นจากคำบอกเล่าของพระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ หรือ หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
ข้อมูลหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดเพิ่มเติม มีให้บูชาด้วย กดดูที่นี่ https://utdid.com/amulet/0000993.html
หินพระธาตุ เขาสามร้อยยอดทุกถ้ำ ใช้มวลสารหินพระธาตุทุกถ้ำเขาสามร้อยยอดมากถึง 360 กิโลกรัม จัดหามาได้ทุกถ้ำ มากถึง 19 ถ้ำครบหินพระธาตุ มีพลังมากพุทธคุณครบทุกด้าน 60 เปอร์เซนต์ในองค์พระเป็นหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด
ภาพล่างจากซ้ายไปขวา 1. ถ้ำมะทราง 2. ถ้ำโลหิต 3.ถ้ำจุฬามณี 4. ถ้ำสาริกา
ภาพล่างจากซ้ายไปขวา 5.ถ้ำพระโมคคัลลานะ 6.ถ้ำแม่ย่า 7. ถ้ำหินเหล็กไฟ 8.ถ้ำเศรษฐี
ภาพล่างจากซ้ายไปขวา 9. ถ้ำฤาษี 10.ถ้ำแก้ว 11.ถ้ำขุมทรัพย์ 12.ถ้ำสามสี
ภาพล่างจากซ้ายไปขวา 13. ถ้ำขาว 14. ถ้ำวิว 15. ถ้ำทิดหมาน 16.ถ้ำเขาพระ
ภาพล่างจากซ้ายไปขวา 17.ถ้ำพุน้อย 18. ถ้ำมังกร 19. ถ้ำลานเท
หินพระธาตุแบบหน้าเต็มถ้ำต่างๆ ทุกถ้ำ นำมาบดเป็นมวลสารสร้างพระ เทพ ต่างๆในรุ่นนี้ทั้งหมดแล้ว มากถึง 360 กก. องค์พระจึงอัดแน่ไปด้วยมวลสารหินพระธาตุต่างๆทุกถ้ำมีพลังมากที่สุด
3. พระอรหันต์ธาตุ (หายากมากกว่าจะได้มาต้องรวบรวมครบใช้เวลานานมาก)
48 พระอรหันต์ (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
พระอรหันตธาตุ พระอนาคาระกัสสปะ พระอรหันต พระสาวกธาตุสมัยพุทธกาลและสมัยโบราณ ตามตำราพระธาตุของโบราณ ได้กล่าวถึงลักษณะพระธาตุของพระอรหันต์ผู้ซึ่งทรงขันธ์อยู่ในสมัยพุทธกาล และหลังพุทธปรินิพพานไม่นาน มีระบุลักษณะของพระธาตุพระอรหันต์เหล่านี้ไว้ ๔๗ องค์และ ในอรรถกถา ระบุลักษณะพระธาตุของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลไว้อีก ๓ องค์ ซึ่งซ้ำกับในตำราพระธาตุของโบราณ ๒ องค์ รวมปรากฏลักษณะพระธาตุของพระอรหันต์ทั้งสิ้น ๔๘ องค์ ได้แก่
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
1.พระสารีบุตร 2.พระโมคคัลลานะ 3. พระอานนท์ 4. พระสิวลี 5. พระมหากัจจายนะ
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
6.พระอัญญาโกณฑัญญะ 7. พระองคุลีมาล 8.พระอนุรุทธะ 9.พระควัมปติ 10.พระสันตติมหาอำมาตย์
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
11.พระภัททิยะ 12.พระอุทายี 13.พระกาฬุทายี 14.พระปุณณะ 15.พระสัปปทาสะ (พระสัมปฑัญญะ)
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
16. พระมหากัปปินะ (พระมหากปีนะ) 17. พระสภิยะ(พระยังคิกะ) 18.พระสุมนะ 19.พระกังขาเรวัตตะ 20.พระอุตตระ
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
21.พระคิรินันทะ(พระคีรีมานันทะ) 22.พระโสปากะ(พระสปากะ) 23.พระวิมะละ 24.พระอุคคะ(พระอุคคาเรวะ) 25.พระปูติคัตตติสสะ(พระโลหนามะ)
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
26.พระสุคันธะ(พระคันธทายี) 27.พระบิณโฑลภารทวาชะ(พระปิณฑปาติยะ) 28.พระกุมารกัสสปะ 29.พระภัคคุ(พระภัทธคู) 30.พระอัตตทัตตะ(พระโคทะทัตตะ)
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
31.พระกิมพิละ(พระกิมิละ) 32.พระวังคิสะ 33.พระโชติกะ(พระโชติยะ) 34.พระกุณฑธานะ(พระกุณฑละติสสะ) 35.พระพักกุละ
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
36.พระพาหิยทารุจีริยะ 37.พระอุปคุต 38.พระอุปนันทสักยบุตร 39.พระนาคะสมาละ(พระจุลนาคะ) 40.พระโคธิกะ
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
41.พระวัลลิยะ(พระเวยยะกัปปะ) 42.พระโมฬิยวาหะ 43.พระเวณุหาสะ 44.พระอนาคาระกัสสปะ 45.พระมาลียเถระ
เรียงภาพจากซ้ายไปขวา
46.พระพิมพาเถรี 47.พระอุตตราเถรี 48.พระอุบลวรรณาเถรี
4. พระธาตุพุทธนฤมิตร (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
พระโลหิตธาตุ (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
โลหิตธาตุพระโมคคัลลานเถระ : เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์ พระโมคคัลลานะ เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย พระมหาโมคคัลลานะเป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย (ทุติยสาวก) เลิศกว่าผู้อื่นในทางฤทธิ์ ดูรายละเอียดพระโลหิตธาตุ กด link นี้ https://utdid.com/amulet/0001005.html
ปฐวีธาตุ (จำนวนมวลสาร 3 ก.ก.)
ความเชื่ออภินิหารและประสบการณ์ผู้บูชานับไม่ถ้วนทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ เมตตามหานิยม นำไปแช่น้ำมันแก้คุณไสย์มนต์ดำล้างอาถรรพ์ได้ และสามารถเพิ่มพลังสัมผัสไอในตัวผู้บูชาได้มากที่สุด ดูรายละเอียดปฐวีธาตุ กด link นี้ >>> https://utdid.com/amulet/0000994.html
เหล็กไหล 7 สี (จำนวนมวลสาร 20 ก.ก.)
ไหลเจ็ดสี ความเชื่อ เป็นเหล็กไหลชั้นยอดในชุดเหล็กไหลและเป็นเหล็กไหลที่หาพบได้ยากมาก ๆ มีอิทธ์ ฤทธิ์ คงกระพันชาตรี กันภูตผีปีศาจได้ดีที่สุด และสร้างภาพลวงตา เหล็กไหล7สีนิยมบูชาป้องกันภูติผีปีศาจ แก้ปีชง แช่น้ำมนต์แก้คุณไสย์ ลดวิบากกรรม และป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็น และมองไม่เห็น ดูรายละเอียดเหล็กไหล 7 สี กด link นี้ >>> https://utdid.com/amulet/0000968.html
เหล็กไหลนาคราช (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
แร่เหล็กไหลภูควายเงิน (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
เหล็กไหลเพลิง (จำนวนมวลสาร 7 ก.ก.)
เหล็กไหลฤาษี (จำนวนมวลสาร 5 ก.ก.)
แร่เหล็กไหลฤาษีที่ ได้มาจากพระฤาษีบำเพ็ญตนในถ้ำแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ ชาวบ้านไปพบพระฤาษี จึงแบ่งมาให้ทำมวลสาร
ผงเหล็กไหลนาคราช (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
ผงเหล็กไหลนาคราชแม่น้ำโขง ความเชื่อ เป็นแร่ธาตุที่หาได้ยากและมีอำนาจมหาศาลพุทธคุณหรือคุณวิเศษมีอยู่ในตัวทั้งในด้านคุณเสน่ห์และเมตตามหานิยมความแคล้วคลาดปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านโชคลาภร่ำรวยขึ้นทันตาแบบไม่น่าเชื่อจึงเป็นที่ต้องการของผู้ได้พบเพราะมีความเชื่อว่าเป็นแร่ที่มีอาถรรพ์อยู่ได้เฉพาะผู้ที่ทีบุญบารมีมาแต่ อดีตชาติเท่านั้น ผงเหล็กไหลนาคราช ดูรายละเอียดที่ link นี้ >>> https://utdid.com/amulet/0000998.html
ผงแผ่นเหล็กน้ำพี้ (จำนวนมวลสาร 15 ก.ก.)
ความเชื่อ ส่วนเหล็กน้ำพี้มีความเชื่อกันอยู่แล้วว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ เช่น ล้างอาถรรพ์ ล้างสิ่งชั่วร้ายที่อยู่อาศัย หรือล้างสิ่งชั่วร้ายในบริเวณนั้น เอาไว้ป้องกันตัว ป้องกันเวทย์มนต์ดำ มนต์ร้าย ปัดเป่าเคราะห์ภัย เสริมบารมีผู้มีไว้ครอบครอง ล้างมนต์ดำ ไล่ผีร้าย ปีศาจ ป้องกันอาวุธต่างๆให้ผู้สวมใส่ปลอดภัย กดดูเหล็กน้ำพี้ link นี้ >>> https://utdid.com/amulet/0000272.html
ดอกไม้กลายเป็นหิน ดอกไม้หิน (จำนวนมวลสาร 3 ก.ก.)
ไม้ไผ่ตัน ไม้ไผ่มหาอุด (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
ไม้ไผ่ตัน ความเชื่อ ของอาถรรพ์จากธรรมชาติ ของหายากไม่สามารถหาได้ทั่วไป ไม้ไผ่ตัน หรือไม้ไผ่มหาอุด เป็นไม้ไผ่ตลอดทั้งลำที่ตันตั้งแต่ต้นตลอดหัวจรดราก เกจิอาจารย์นิยมลงคาถาอักขระเลขยันต์ต่างๆ จะเป็นไม้เท้าไม้ไผ่ตัน ตะกรุดไม้ไผ่ตัน ตะกรุดคาดเอว พระเกจิอาจาย์ต่างๆมีความเชื่อว่าไม้ไผ่ตันมีอานุภาพเป็นอเนกประการ ทั้งมหาอุด เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ป้องกันไฟ เป็นของดีหายากอย่างหนึ่งในธรรมชาติที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก กดดูไม้ไผ่ตัน link นี้ >>> https://utdid.com/amulet/0000980.html
ชันโรง (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
ยาปู่ฤาษี 108 (จำนวนมวลสาร 5 ก้อน )
ยาวิเศษที่พระฤาษีที่บำเพ็ญตบะ อยู่ในป่าแถบชายแดนไทยลาวมอบให้เป็นยาวิเศษที่ใช้สมุนไพรป่า และการบริกรรมคาถาของพระฤาษีปลุกเสกลงไป แม่ชีขอมาให้ทางร้านวรันณ์ธร นำไปทำเป็นมวลสาร
หมากไม้มณีโคตร (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
แห่งเดียวในโลก จากประเทศลาว
เบี้ยแก้โบราณล้านปี (จำนวนมวลสาร 3 ก.ก.)
เบี้ยหอยกลายเป็นหิน ประเทศลาว
ตาข่ายพันชั้น (จำนวนมวลสาร 5 ก.ก.)
เขตชายแดนลาวเวียดนาม
เพชรหน้าทั่ง (จำนวนมวลสาร 5 ก.ก.)
ผงในกะลาตาเดียว (จำนวนมวลสาร 3 ก.ก.)
พลอย นิล หยก อเมทิส (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
กาฝากไม้คูณ กาฝากไม้ขนุน กาฝากไม้สัก กาฝากไม้มะยม
(จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
แร่ดูดทรัพย์ (จำนวนมวลสาร 5 ก.ก.)
ยาผงฤาษีผาแท่น ยากลายเป็นหิน (จำนวนมวลสาร 2 ก.ก.)
คต ขมิ้น ข่า ขิง กลายเป็นหิน (จำนวนมวลสาร 4 ก.ก.)
ข้าวสารหินดำ ข้าวสารหินขาว (จำนวนมวลสาร 1 ก.ก.)
แร่มะขาม เม็ดจิ๋ว และแร่มะขามเม็ดใหญ่ (จำนวนมวลสาร 7 ก.ก.)
กะลามะพร้าว 1ตา 3ตา กะลาตาเสือ (จำนวนมวลสาร 20 ลูก )
พระเจ้า 5 พระองค์ (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
สเก็ตดาว (จำนวนมวลสาร 3 ก.ก.)
ไม้งิ้วดำ ไม้พญางิ้วดำ (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
น้ำตา พระศิวะ เมล็ดรุทรักษะ (จำนวนมวลสาร 500 ผล )
แก้วขนเหล็ก (จำนวนมวลสาร 20ก.ก.)
แก้วโป่งข่าม (จำนวนมวลสาร 5 ก.ก.)
รังปลวก กลายเป็นหิน (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
ไหลน้ำพี้ ไหลดำ ไหลเขียว ไหลฟ้า ไหลม่วง (จำนวนมวลสาร 20 ก.ก.)
ไม้กลายเป็นหิน (จำนวนมวลสาร 20 ก.ก.)
ไม้มงคล 9 อย่าง (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
ผงว่าน 108 ชนิด (จำนวนมวลสาร 10 ก.ก.)
ด้านเมตตา คงกระพัน ป้องกันตัว โชคลาภ 108ชนิด
รายชื่อว่าน108 ที่ใช้ทำมวลสารแบบบดแล้ว
1.ไก่แดง ให้ผลทางเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยมชั้นยอด
2.มหาลาภ ให้ผลทางโชคลาภเป็นสิริมงคลดีนัก
3.สี่ทิศ ให้ผลทางโชคลาภทำการสิ่งใดจะประสบความสำเร็จทุกประการ
4.เทพประชุมพร ว่านทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ช่วยให้ค้าขายเจริญรุ่งเรือง
5.ว่านสบู่เลือด ดีทางด้านคงกระพันชาตรี โบราณนิยมมาสร้างพระ เช่น พระผงน้ำมัน วัดชนะสงคราม
6.ขมิ้นขาว เด่นทางด้านเมตตา
7.นางคำ คุณวิเศษทางด้านเสน่ห์มหานิยม ใช้ได้นานาประการ
8.สาวหลง ว่านที่ทรงคุณค่าทางด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงสุด
9.ทิพยเตร เด่นเรื่องเมตตามหานิยม
10.มหาอุดม เป็นว่านมหานิยมสูงมาก เป็นที่รักใคร่
11.ดินสอฤาษี สรรพคุณทางด้านมหานิยมยังอยู่ในระดับเยี่ยม
12.ไพลดำ แคล้วคลาดปลอดภัย
13.ว่านธรรมรักษา เป็นว่านสิริมงคล โน้มน้าวให้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรม ป้งอกันภัยพิบัติ
14.ว่านนางกวัก เด่นทางการค้าขายช่วยกวักเงินกวักทอง
15.กุมารทอง ให้ผลทางโชคลาภ
16.พะตะบะ กันอัปมงคลต่างๆแคล้วคลาดปลอดภัย
17.ทรหด เด่นทางด้านคงกระพันและแคล้วคลาด
18.กระแจะจันทร์ ด้านเมตตามหาเสน่ห์
19.เปราะหอม เป็นว่านทางเสน่ห์มหานิยมทางชู้สาว และช่วยให้ค้าขายดี
20.ไก่ขัน ใช้ในทางเสน่ห์เลห์กลดีหนักหนา
21.เพชรน้อย เด่นทางด้านคงกระพันและแคล้วคลาด
22.เพชรน้อยแดง เด่นทางด้านคงกระพันและแคล้วคลาด
23.รวยล้นฟ้า เป็นว่านทางโชลาภ
24.นางพญาหงส์ทอง เป็นว่านทางเมตตามหานิยม เจรจาสิ่งใดจะเป็นที่พอใจ
25.มหาโชค มีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครอง
26.กลิ้งกลางดง เด่นทางด้านคงกระพันและแคล้วคลาด
27.พระฉิม เป็นมงคล เสริมสิริมงคล และขจัดความชั่วร้ายทำให้แคล้วคลาด
28.หอมดำ จัดเป็นว่าน 108 ที่ใช้ในการผสมสร้างพระผงคงกระพันชาตรี อีกทั้งยังมีเมตตามหานิยมใคร
29.แม่ทองใบ มีอานุภาพบันดาลให้ประสบโชคลาภ ความร่มเย็นเป็นสุข
30.ไชยมงคล ความเป็นมงคล เป็นว่านทรงอำนาจช่วยคุ้มครองป้องกันภัย
31.สลักไกร เสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีอีกด้วย
32.สบู่หยวก เสน่ห์เมตตามหานิยม
33.เศรษฐีนางกวัก ช่วยกวักทรัพย์ กวักลาภ กวักผู้คน ลูกค้าให้ไปมาหาสู่มิได้ขาด
34.พญาลิ้นงู แคล้วคลาด
35.มหาบัว เป็นว่านสิริมงคลชั้นสูงต้นหนึ่ง
36.ว่านคุ้มรจนา มีอานุภาพคุ้มครองปกป้องเคหสถาน บ้านเรือนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
37.เทพรำลึก เสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นยอด
38.เงินไหลมา มีอานุภาพเรียกเงินทองให้เข้ามาสู่เคหะสถานบ้านเรือน
39.พญาว่าน แคล้วคลาด
40.ขมิ้นขาวปัดตลอด โชคลาภความเจริญ ความมีเมตตามหานิยม และความร่มเย็นเป็นสุขมั่งคั่ง
41.นะหน้าทอง ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ให้ผลดีางการค้า
42.มหาจักรพรรดิ เหมือนมีกำแพงแก้วป้องกันภัยบังเกิดความเจริญรุ่งเรืองเป็นเนืองนิตย์
43.หนุมานยกทัพ เป็นเมตตามหานิยมและกันทางคุณไสยาศาสตร์
44.หอมแดง จัดเป็นว่าน 108 ชนิดที่ใช้ในการผสมเพื่อสร้างพระผงในสมัยก่อน
45.เศรษฐีเรือนนอก อานุภาพให้คุณทางด้านลาภผล เงินทอง
46.ว่านมเหศวร เชื่อว่ามีเทวดารักษา เป็นว่านทางเมตตามหานิยมจะมีแต่คนรัก
47.ว่านเทพรำเพย เป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม เจรจาค้าขายดี
48.แสนนางล้อม เป็นว่านที่มีสิริมงคลและป้องกันอัคคีภัย
49.ขุนแผนสะกดทัพ อานุภาพ ทางเสน่ห์เมตตานิยม
50.เศรษฐีน้ำเต้าทอง เด่นทางเมตตา โชคลาภ
51.ว่านมหามงคล เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เสริมบารมี
52.เฒ่าหนังแห้ง คงกระพันแคล้วคลาด
53.ไก่กุ๊ก อานุภาพ ทางเสน่ห์เมตตานิยม
54.เสน่ห์จันทร์ดำ จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น
55.เสน่ห์จันทร์เขียว จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น
56.ว่านจังงัง เป็นเมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่เมตตาแก่ศัตรูหมู่มารทำให้ไม่กล้าคิดร้าย อำนาจของว่านจะทำให้ศัตรูเกิดจังงัง
57.เสน่ห์จันทร์แดง จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น
58.กวักนางพญามหาเศรษฐี อานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคล
59.กวักนางพญาใหญ่ อานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคล
60.กวักพุทธเจ้าหลวง อานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคล
61.ว่านเหล็กไหล เด่นทางคงกระพันแคล้วคลาด
62.พัดแม่ชี อานุภาพสูงทางด้านปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ป้องกันอำนาจคุณไสย
63.นางคุ้ม คุ้มกันภยันตรายต่างๆ
64.มหาปราบ ดีทางฤทธิ์และอำนาจ อยู่ยงคงกระพัน ป้องกัน ภูติ ผี ปีศาจ
65.กำบังภัย สามารถใช้ป้องกันภัยจากคุณไสย ป้องกันอันตราย ที่จะเข้ามากล้ำกราย
66.ขอทอง เด่นเรื่อง เมตตา มหานิยม
67.หนุมานนั่งแท่น ทางคงกระพันชาตรี
68.ไก่ดำ อำนาจและบารมี อีกทั้งให้คุณทางด้านการค้าขาย
69.เศรษฐีก้านทอง สรรพคุณคือใช้เป็นเมตตามหานิยมเรียกเงินทอง
70.เทพรำพึง เป็นเอกทางด้านเมตตามหานิยม เป็นสิริมงคล
71.เสน่หา เป็นว่านมงคลมหานิยม
72.เต่านำโชค เป็นว่านทางเมตตา
73.นางล้อม เป็นว่านมหามงคล ป้องกันสรรพสัตว์ทั้งปวง
74.กล่อมนางนอน ว่านที่มากด้วยเมตตามหานิยม มีอานุภาพสามารถทำให้ผู้คนเคลิบเคลิ้มได้
75.ขมิ้นขาวเสน่ห์ ดีทางด้านเมตตามหานิยม ทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม
76.เทพรัญจวน ให้ในทางเมตตามหานิยม เป็นที่รัก เมตตาต่อผู้พบเห็น
77.ว่านเอ็นเหลือง เด่นทางคงกระพันและแคล้วคลาด
78.จูงนาง เป็นว่านทางด้านเสนห์ เมตตามหานิยม
79.นกคุ้ม เป็นว่านที่มีสรรพคุณพิเศษในการป้องกันอัคคีภัยและคุ้มครองสิ่งของในบ้านเรือนให้
80.ว่านเสน่ห์จันทร์ทอง เด่นทางเสน่ห์และช่วยให้ค้าขายดี
81.เถาว์วัลย์หลง ดีทางเจรจาพาที เป็นที่เมตตามหานิยม
82.มหากวัก อานุภาพสิริมงคล ส่งเสริมกิจการธุรกิจการค้าและเจริญก้าวหน้า
83.พุทธกวัก ว่านนี้ดีทางเมตตาและทางการค้า
84.ว่านพญาปัจเวก เด่นทางด้านเสริมบารมี
85.อึ่ง เด่นทางแคล้วคลาด ปกป้องจากสิ่งอัปมงคล
86.พระเจ้า5พระองค์ ในทางแคล้วคลาดอันตรายอุบัติเหตุต่างๆ
87.ธรณีสาร ความเป็นมงคลอานุภาพสิริมงคล ส่งเสริมกิจการธุรกิจการค้า
88.สิบแสน เป็นว่านทางเมตตามหานิยม ทำให้ประสบโชคลาภ
89.ว่านพระนารายณ์ ว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม นำโชคนำลาภ
90.เสน่ห์ขุนแผน เป็นเมตตามหานิยมรักใคร่และความเจริญรุ่งเรือง
91.เศรษฐีพญาบดินทร์ ทางเมตตามหานิยมสูงทั้งนำโชค
92.กวักทองคำ ว่านสิริมงคล ว่านแห่งโชคลาภ
93.สิงหโมรา ใช้ในทางเมตตามหานิยม เด่นทางด้านอำนาจ
94.สาลิกา มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม
95.ทองคำ ใช้ในทางโชคลาภเงินทอง
96.ช้างผสมโขลง เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม
97.พญาหอกหล่อ เป็นว่านแคล้วคลาด
98.มหาเมฆ เป็นว่านนิยมมาตั้งแต่โบราณ ดีทางคลกระพันชาตรี เป็นตบะเดชะ
99.ไพลปลุกเสก อานุภาพเกิดลาภผล ความอุดมสมบูรณ์พูนสุขเจริญรุ่งเรือง
100.จ่าว่าน เป็นว่านอานุภาพสูงให้ทรงด้วยอานุภาพ ป้องกันเสนียดจัญไร
101.ว่านนเรศวร เป็นว่านที่ทรงอานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ตบะเดชะ เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู หมู่มาร และ คุ้มครองปกป้องเป็นเลิศ
102.กวักเงินกวักทอง ว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม นำโชคนำลาภเงินทอง
103.เพชรกลับ เด่นทางแคล้วคลาด ปกป้องจากสิ่งอัปมงคล ไปที่ใดปราศจากอันตราย
104.วาสนาทางลาย เด่นทางโชคลาภวาสนา เจริญด้วยความสมบูรณ์พูนสุข
105.เศรษฐีขอดทรัพย์ ใช้ในทางลาภเป็นเมตตามหานิยม
106.ว่านทองคำ ใช้ในทางโชคลาภเงินทอง
107.ว่านรวยล้นฟ้า เป็นว่าแห่งโชคลาภ มีเงินทองใช้ไม่มีวันหมด
108.ว่านวาสนาทางลายเด่นทางโชคลาภวาสนา เจริญด้วยความอุดมสมบูรณ์พูนสุข
การบดมวลสาร ผสมมวลสาร ทางร้านวรันณ์ธร จะพยายามทำเองทุกขั้นตอนเพื่อไม่ให้มวลสารรั่วไหล จึงการันตีได้ว่าท่านผู้สนใจบูชาวัตถุมงคลของร้านจะได้วัตถุมงคลที่ดี แท้ และได้มวลสารเต็มๆองค์
เครื่องตีบดมวลสาร
เครื่องผสมมวลสารเล็ก และเครื่องผสมมวลสารใหญ่
มวลสารที่ถูกบด และผสม แล้ว
มวลสารเสร็จแล้ว นำไปเจริญพุทธมนต์เข้าพิธีงานกฐิน 3 วัด ซึ่งร้านวรันณ์ธร เป็นเจ้าภาพ และประธานงานกฐินดังนี้
นำมวลสารที่บดเรียบร้อยทั้งหมดแล้วไปเข้าพิธีพุทธมนต์กฐิน
นำมวลสารที่บดแล้ว ไปเข้าพิธีพุทธมนต์ วัดที่ 1 วัดหนองคันธมาศ วันที่ 30 ตุลาคม 2559 ร้านวรันณ์ธร เป็นประธานงานพิธี นำโดยคุณประสิทธิ์ มีมา ผู้จัดการโรงหล่อพระ
พระอาจารย์สุข เจ้าอาวาสเป็นผู้รับมอบ พานกฐิน ต้นโพธิ์เงิน โพธิ์ทอง ของร้านวรันณ์ธร เป็นเจ้าภาพ ประธานงาน
นำมวลสารที่บดแล้ว ไปเข้าพิธีพุทธมนต์ วัดที่ 2 วัดแนวคีรี วันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 ร้านวรันณ์ธร เป็นประธานงานพิธี นำโดย คุณนันท์นภัส ณวรรกร ผู้จัดการร้าน
พระอาจารย์ตี๋ เจ้าอาวาสเป็นผู้รับมอบ พานกฐิน ต้นโพธิ์เงิน โพธิ์ทอง ของร้านวรันณ์ธร เป็นเจ้าภาพ ประธานงาน
นำมวลสารที่บดแล้ว ไปเข้าพิธีพุทธมนต์ วัดที่ 3 วัดม่อนหินขาว วันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 ร้านวรันณ์ธร เป็นประธานงานพิธี นำโดย คุณชยุต ณัฏฐ์รำ เจ้าของกิจการ
พระอาจารย์เล็ก เจ้าอาวาสเป็นผู้รับมอบ พานกฐิน ต้นโพธิ์เงิน โพธิ์ทองร้านวรันณ์ธร เป็นเจ้าภาพ ประธานงาน
มวลสารที่ผ่านพิธีพุทธมนต์ งานกฐิน มาครบ 3 วัดแล้ว
ทางร้านวรันณ์ธร นำมวลสารปั้มพระตามการวางฤกษ์ยาม โดยคุณชยุต ณัฏฐ์รำ เป็นผู้วางฤกษ์ทั้งหมด มีความรู้ด้านโหราศาสตร์
การปั้มพระผง
------------------
อยากมีพระดีๆสักองค์ไว้บูชาไหม
พระดีใน คือมวลสารดี หายากรวบรวมจากทั่วประเทศ และต่างประเทศ และมวลสารบรรจุไว้เกือบเต็มองค์มากถึง 70 เปอร์เซนต์ต่อองค์ ซึ่งพระส่วนใหญ่น้อยมากที่จะบรรจุมวลสารเต็มๆองค์แบบนี้
พระดีนอก คือพุทธาภิเษกเกจิพลังจิต คาถาอาคม สูงระดับประเทศไทย
ผู้สร้าง สร้างด้วยความซื่อสัตย์ ต้องการให้ผู้บูชาได้พระดีจริง มวลสารจริง มวลสารถึง ศักดิ์สิทธิ์จริง และการปลุกเสกดีจริง ผู้สร้าง สร้างออกมาจากใจถึงมือผู้บูชาทุกคน
------------------
สนใจสั่งทางไลน์ไอดี @line55 (มี@ด้วย)
หรือคลิกสั่งทางไลน์ ที่นี่ >>> http://line.me/ti/p/%40line55
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยไม่ต้องลงทุนสอบถามได้ทันที
หรือโทรตามเบอร์โทรหน้าเว็บนี้ได้ทุกเบอร์
ดูโปรโมชั่นสั่งวัตถุมงคลได้ที่ คลิกที่นี่
------------------
ประวัติพญาครุฑ วิธีบูชา และคาถา
พญาครุฑ เทพปกรณัมของครุฑในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เล่าว่าครุฑเป็นบุตรของพระกัศยปมุนีเทพบิดร และนางวินตา พระกัศยปมุนีองค์นี้เป็นฤษีที่มีฤทธิ์เดชมากองค์หนึ่ง และเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอีกหลายองค์ในศาสนาพราหมณ์ พระองค์มีชายาหลายองค์ แต่องค์ที่เกี่ยวข้องกับครุฑนั้น นอกจากนางวินตาแล้ว ยังมีอีกองค์หนึ่งคือ นางกัทรุ ซึ่งเป็นพี่น้องกับนางวินตาและเป็นมารดาของนาคทั้งปวง
ทั้งสองนางได้ขอพรให้กำเนิดบุตรจากพระกัศยป โดยนางกัทรุได้ขอพรว่าขอให้มีบุตรจำนวนมาก ซึ่งต่อมาก็ได้ให้กำเนิดนาคหนึ่งพันตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอบุตรเพียงสององค์และขอให้ลูกมีอำนาจวาสนา เมื่อนางคลอดบุตรปรากฏว่าออกมาเป็นไข่สองฟอง นางรออยู่เป็นเวลา 500 ปี ไข่ก็ยังไม่ฟัก นางทนรอไม่ไหวว่าบุตรของตนจะมีหน้าตาอย่างไร จึงทุบไข่ออกมาฟองหนึ่ง ปรากฏว่าเป็นเทพบุตรที่มีกายแค่ครึ่งท่อนบนชื่อ อรุณ อรุณเทพบุตรโกรธมารดาของตนที่ทำให้ตนออกจากใข่ก่อนกำหนด จึงสาปให้มารดาของตนเป็นทาสนางกัทรุ และให้บุตรคนที่สองของนางเป็นผู้ช่วยนางให้พ้นจากความเป็นทาส จากนั้นจึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ นางวินตาจึงไม่กล้าทุบไข่ฟองที่สองออกมาดู นางรอต่อไปอีก 1000 ปี รอให้ถึงกำหนดที่บุตรคนที่สองซึ่งก็คือพญาครุฑออกมาจากไข่เอง อนึ่ง เมื่อพญาครุฑแรกเกิดว่ากันว่า มีร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจรดฟ้า ดวงตาเมื่อกะพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกทีใด ขุนเขาก็จะตกใจหนีหายไปพร้อมพระพาย รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วสี่ทิศ ซึ่งทำให้บรรดาเทวดาทั้งหลายเดือดร้อนอย่างมาก บรรดาเทวดาจึงพากันไปขอร้อง ให้ลดขนาดลงมา
ในกาลต่อมา นางกัทรุและนางวินตาได้พนันกันถึงสีของม้าอุไฉศรพที่เกิดคราวกวนเกษียรสมุทรและเป็นสมบัติของพระอินทร์ โดยพนันว่าใครแพ้ต้องเป็นทาสอีกฝ่ายห้าร้อยปี นางวินตาทายว่าม้าสีขาวส่วนนางกัทรุทายว่าสีดำ ความจริงม้าเป็นสีขาวดังที่นางวินตาทาย แต่นางกัทรุใช้อุบายให้นาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซมอยู่เต็มตัวม้า (บางตำนานว่าให้นาคพ่นพิษใส่ม้าจนเป็นสีดำ) นางวินตาไม่ทราบในอุบายเลยยอมแพ้ ต้องเป็นทาสของนางกัทรุถึงห้าร้อยปี
ภายหลังเมื่อครุฑได้ทราบสาเหตุที่มารดาต้องตกเป็นทาสและได้ทราบเงื่อนไขจากพวกนาคว่า ต้องไปเอาน้ำอมฤตให้นาคเสียก่อนจึงจะให้นางวินตาเป็นไท ครุฑจึงบินไปสวรรค์ไปเอาน้ำอมฤตซึ่งอยู่กับพระจันทร์ แล้วคว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก แต่ถูกพระอินทร์และทวยเทพติดตามมา และเกิดต่อสู้กันขึ้น ฝ่ายเทวดานั้นไม่อาจเอาชนะได้ โดยเมื่อพระอินทร์ใช้วัชระโจมตีครุฑนั้น ครุฑไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่ครุฑก็จำได้ว่าวัชระเป็นอาวุธที่พระอิศวรประทานให้แก่พระอินทร์ จึงสลัดขนของตนให้หล่นลงไปเส้นหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพต่อวัชระและรักษาเกียรติของพระอินทร์ผู้ป็นหัวหน้าของเหล่าเทพ ด้านพระวิษณุหรือพระนารายณ์ก็ได้ออกมาขวางครุฑไว้และสู้รบพญาครุฑด้วยเช่นกัน แต่ต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะกันได้ ทั้งสองจึงทำความตกลงยุติศึกต่อกัน โดยพระวิษณุให้พรแก่ครุฑว่าจะให้ครุฑเป็นอมตะและให้อยู่ตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนครุฑก็ถวายสัญญาว่าจะเป็นพาหนะของพระวิษณุ และเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปักอยู่บนรถศึกของพระวิษณุอันเป็นที่สูงกว่า
เมื่อครุฑได้หม้อน้ำอมฤตนั้น พระอินทร์ได้ตามมาขอคืน ครุฑก็บอกว่าตนต้องรักษาสัตย์ที่จะนำไปให้นาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้นจากการเป็นทาส และให้พระอินทร์ตามไปเอาคืนเอง ครุฑจึงเอาน้ำอมฤตไปให้นาคโดยวางไว้บนหญ้าคา (และว่าได้ทำน้ำอมฤตหยดบนหญ้าคา 2-3 หยด ด้วยเหตุนี้ หญ้าคาจึงถือเป็นสิ่งมงคลในทางศาสนาพราหมณ์) ส่วนนาคเมื่อเห็นน้ำอมฤตก็ยินดี จึงยอมปล่อยนางวินตาแม่ครุฑให้เป็นอิสระ ขณะพากันไปสรงน้ำชำระกายเพื่อจะมากินน้ำอมฤตนั่นเอง พระอินทร์ก็นำหม้อน้ำอมฤตกลับไป ทำให้นาคไม่ได้กิน พวกนาคจึงเลียที่ใบหญ้าคาด้วยเชื่อว่าอาจมีหยดน้ำอมฤตหลงเหลืออยู่ ทำให้ใบหญ้าคาบาดกลางลิ้นเป็นทางยาว (เรื่องนี้กลายเป็นที่มาว่าทำไมงูจึงมีลิ้นเป็นสองแฉกสืบมาจนทุกวันนี้) แต่นั้นครุฑกับนาคจึงเป็นศัตรูกันมาโดยตลอด และครุฑนั้นก็จะจับนาคกินเป็นอาหารเสมอ
ครุฑมีชายาชื่ออุนนติหรือวินายกา โอรสชื่อ สัมปาติหรือสัมพาที และชฎายุหรือสดายุ ตามวรรณคดีพุทธศาสนากล่าวว่าครุฑมีขนาดใหญ่มาก วัดจากปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้ 150 โยชน์ เวลากระพือปีกสามารถทำให้เกิดพายุใหญ่ เกิดมืดมนและทำลายบ้านเมืองให้หมดสิ้นไปได้ ที่อยู่ของครุฑเรียกว่า สุบรรณพิภพเป็นวิมานอยู่บนต้นสิมพลีหรือต้นงิ้ว อยู่เชิงเขาพระสุเมรุ
ครุฑในทางพุทธศาสนา[แก้]
ครุฑในทางพุทธศาสนาจัดเป็นเทวดาชั้นล่างประเภทหนึ่งภายใต้การปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศใต้ เหตุที่มาเกิดเป็นครุฑเพราะทำบุญเจือด้วยโมหะ
ครุฑมีกำเนิดทั้ง 4 แบบ คือ โอปปาติกะ (เกิดแบบผุดขึ้น) ชลาพุชะ (เกิดในครรภ์) อัณฑชะ (เกิดในไข่) และสังเสทชะ (เกิดในเถ้าไคล) มีที่อยู่ตั้งแต่พื้นมนุษย์ ป่าหิมพานต์ ป่าไม้งิ้วรอบเขาพระสุเมรุ จนถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
ครุฑชั้นสูงจะมีกำเนิดแบบโอปปาติกะ มีขนสีทอง มีเครื่องประดับแบบเทพบุตรเทพธิดา มีชีวิตอยู่เหมือนเทวดา แปลงกายได้ และบริโภคอาหารทิพย์เช่นเดียวกันเทวดา แต่ครุฑบางประเภทก็กินผลไม้หรือเนื้อสัตว์ บางประเภทถ้าผูกเวรกับนาค ก็จะกินนาคเป็นอาหาร หรือถ้าผูกเวรกับสัตว์นรกในยมโลก ก็จะสมัครใจไปเป็นนายนิรยบาลลงทัณฑ์สัตว์นรก
---------------------
ตำนานพญาครุฑ ในตำนานเมืองฟ้าป่าหิมพานต์นั้นมีเรื่องราวของสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายหลายชนิด เช่น ราชสีห์ คชสีห์ อันมีลำตัวเป็น สิงห์แต่มีศีรษะเป็นช้าง กินรี กินนร และสัตว์แปลก ๆ อีกมากมาย ในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้นมีสองอย่างที่นับว่าเป็นเทพเดรัจฉานมีฤทธิ์มากคือ หนึ่งเป็นพญานาคราชจ้าวแห่งบาดาล และอีกหนึ่งคือพญาครุฑจ้าวแห่งเวหา
นาคและครุฑต่างเป็นสัตว์ที่คู่กันตามตำนาน มีเรื่องราวเล่ากันว่าสัตว์กายสิทธิ์ทั้งสองนี้มีบิดาเดี่ยวกันคือมหาฤาษีกัสยปะเทพบิดรแต่คนละแม่โดยพญาครุฑนั้นมีมารดาเป็นภรรยาหลวง ส่วนนาคนั้นมีแม่เป็นภรรยาคนรอง นางทั้งสองนี้ไม่ถูกกันมีเรื่องกันตลอดจนในที่สุดความผิดใจกันนี้ลามไปถึงลูกของตนด้วย จึงเป็นเหตุให้นาคและครุฑไม่ถูกกันในเวลาต่อมา
พญานาคนั้นมีวิมานอันเป็นทิพย์อยู่ในบาดาล ส่วนครุฑก็มีวิมานทิพย์อยู่ที่เชิงเขาไกรลา ทางฮินดูเขานับถือครุฑว่าเป็นเทพเจ้าสำคัญพระองค์หนึ่ง แม้ในทางไทยเราเอง ทางไสยศาสตร์ก็ให้ความนับถือเกี่ยวกับครุฑนี้มาก ดูอย่างตราแผ่นดินเองก็มีรูปลักษณะเป็นครุฑ เหตุนี้จึงน่าสนใจว่าครุฑนั้นคงมีอานุภาพบางอย่างและน่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในอีกมิติหนึ่งเช่นเดียวกันกับพญานาค ถ้าท่านเชื่อว่าพญานาคมีจริง พญาครุฑก็ย่อมมีจริงเช่นกัน
สามารถพบเห็นรูปครุฑได้จากเอกสารต่าง ๆ ของทางราชการ และนับว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารศักดิ์สิทธิ์ หากราชการผู้ที่ทำหน้าที่ผู้ใดมีความสุจริตจงรักภักดีต่อแผ่นดิน องค์พระมหากษัตริย์ และหน้าที่ของตน องค์พญาครุฑก็จะส่งพลังปกป้องให้มีความสุข ความเจริญในหน้าที่
นอกจากนี้ยังมีเกร็ดความเชื่อว่าหากที่ใดมีอาถรรพ์แรง ท่านให้นำเอาตราครุฑไปติดจะทำให้อาถรรพ์นั้นเสื่อมสลายไปในที่สุด ตราครุฑล้างอาถรรพ์ได้จึงเป็นที่เชื่อถือกันมาตลอดและได้รับความเคารพบูชาว่าเป็นของสูง เสมือนหนึ่งตัวแทนแห่งองค์พระประมุข ผู้ใดมีสัญลักษณ์ครุฑ รูปครุฑบูชาไว้ย่อมได้อานิสงส์มาก อาทิ มีความเจริญแก่ตัวเองและครอบครัวเป็นต้น ดังนี้แล้วครุฑจึงเป็นของสูงที่เราควรรู้ควรบูชาอย่างหนึ่ง คนโบราณมีความเชื่อสืบกันมาว่า ครุฑนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง มหาอำนาจ ในสมัยก่อนที่ไหนว่ากันว่าผีแรง ผีเฮี้ยน เอาตราพญาครุฑไปติดไว้ความอาถรรพ์ของสถานที่นั้น ๆ ก็จะหายไปในทันที
อำนาจพญาครุฑ
สิทธิอำนาจพญาครุฑ สัตว์กายสิทธิ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้มีอายุยืนเสมือนว่าเป็นอมตะนั้น นับเป็นเรื่องลี้ลับที่ผู้รู้พยายามค้นคว้า และเสาะหาที่มาแห่งพลังอำนาจดังกล่าว จนเกิดการสร้างเครื่องรางต่าง ๆ ขึ้น อำนาจพญาครุฑสามารถจำแนกได้ถึง ๘ ประการ โดยนับเอาอำนาจหลัก ๆ ได้ดังนี้คือ
๑.เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
๒.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
๓.เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
๔.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
๕.เป็นเมตตามหานิยม
๖.นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
๗.ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
๘.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
วิธีบูชาองค์พญาครุฑอย่างถูกต้อง
เมื่อได้รับองค์พญาครุฑแบบบูชามาใหม่ๆให้อัญเชิญนำเข้าอาคารบ้านเรือนภายในเที่ยงวัน ให้ทำการจุดธูปบอกกล่าวแด่เจ้าที่เจ้าทางหรือตี่จูเอี๊ย ( ใช้ธูป ๕ ดอก ) เพื่อเป็นการขออนุญาตินำองค์พญาครุฑมาประทับ ณ.สถานที่แห่งนี้ แล้วให้จัดเครื่องบวงสรวงรับด้วยการจุดธูปครั้งแรก ๙ ดอก จุดเทียน ๑ คู่ พวงมาลัย ๑ พวง ผลไม้ ๑ หรือ ๓ อย่าง ถั่วหรืองา ๑ ถ้วย น้ำเปล่า ๑ แก้ว ( งดถวายของคาว บุหรี่ เหล้า ) สามารถวางรวมอยู่กับหิ้งพระได้โดยไว้ชั้นล่างสุด แต่ถ้าเดิมทีหิ้งของท่านบูชาพญานาคอยู่แล้ว ก็ให้วางชั้นเดียวกันได้ โดยไม่ต้องกลัวอาถรรพ์ใดๆทั้งสิ้น เพราะพญาครุฑกับพญานาคยุติสงครามกันมานานแล้ว สามารถวางบูชาร่วมกับองค์พระพิฆเนศได้ไม่มีปัญหา แล้วให้ทำการสวดอัญเชิญสรรเสริญองค์พญาครุฑด้วยบทนี้
ตั้งนะโม ๓ จบแล้วว่า
-คะรุปิจะ กิติมันตัง มะ อะ อุ
โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย
นะได้เงิน นะได้ทอง นะเจริญ
นะมั่นคง นะได้ทรัพย์ นะเมตตา
อิติปิโสภะคะวาพระพุทธเจ้าสั่งมา
พญาครุฑล้างอาถรรพณ์
อิติคงเนื้อ อิติคงหนัง
พญาครุฑยันติ อภิปูยาจามิ.
-พญาครุฑจะผุด มนุษย์จะเกิด
พุทธังแคล้วคลาด
ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด
องค์พระพุทธเจ้าย่างบาท
นะปัจจะโยโหนตุ
ส่วนของถวายให้จัดถวายท่านตามความเหมาะสมจะเพียงผลไม้ ๑ อย่าง หรือ ๑ ลูก ก็ได้ หรือจะเป็นขนมนมเนยแบบเดียวกับที่ท่านบูชาพระพิฆเนศก็ได้ไม่มีปัญหาแต่ขอให้เปลี่ยนน้ำถวายท่านทุกๆวัน ให้รักษาศีล ๕ ทำบุญถวายสังฆทานอย่างน้อยเดือนล่ะครั้ง ให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และให้กตัญญูต่อผู้ที่มีพระคุณทุกๆคน (องค์พญาครุฑเป็นเทพที่มีความกตัญญูสูงที่สุด)
โดยทุกคนสามารถบูชาองค์พญาครุฑได้ไม่มีข้อห้าม ไม่ว่าจะเกิดปีมะโรงหรือปีมะเส็งก็บูชาท่านได้ไม่มีปัญหา เพียงแต่ผู้ที่จะสร้างองค์พญาครุฑได้นั้นจะต้องมีวิชาอาคมและมีบุญบารมีที่สูงมากจึงจะสร้างได้สำเร็จและเข้มขลัง องค์พญาครุฑสามารถประทานพรให้ได้ทุกเรื่องตามที่จะปราถนาเนื่องด้วยมีฤทธิ์เทียบเท่ากับองค์พระนารายณ์ โดยสิทธิอํานาจพญาครุฑสัตว์กายสิทธิ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้มีอายุยืนเสมือนว่าเป็นอมตะนั้น นับเป็นเรื่องลี้อํานาจพญาครุฑสามารถจําแนกได้ ๘ ประการ ดังนี้คือ
๑.เป็นมหาอํานาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอํานาจอันเฉียบขาด
๒.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสยได้ทั้งปวง ภูติผีปีศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
๓.เป็นสื่อนําความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
๔..ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
๕.เป็นเมตตามหานิยม
๖.นําความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
๗.ทํามาค้าขายดี เป็นสื่อนําโชคลาภนานาประการ
๘.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษ ไม่กล้ากลํากายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
( รวมบทสวดคาถาบูชาองค์พญาครุฑ )
ตั้งนะโมฯ ๓ จบ
-อะหัง ครุฑธาเรนะ. ( ๓ คาบหรือ ๙ คาบ )
-ครุฑาเทวาราช ราชาเวหา อิทธิฤทธา อิทธิเดชา นะมะอะอุ ( สวด ๓-๕-๗-๙ จบ )
- อุ กะ กา นัง ( ๓ จบ )
พระคาถาหัวใจพญาครุฑของหลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
-จะ อะ ภะ คะ กะ ยะ พะ ตัง
วะโมทุ ทันตานัง พญาจิตรสุบรรณ
คะรุทานัง นะระปูชิโต
โสระโร ปัจจะจายะ
ทิมหิ มหาลาภัง ภะวันตุเมฯ
(พระคาถาบูชาพญาครุฑจิตรสุบรรณ พระอาจารย์โต ฐิตวิริโย วัดพระบาทปางแฟน เชียงใหม่)
-โอมเอยพญาครุฑเวหาหน วิหคลมจงพัดพา สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิลาภัง ภะวันตุเม
-โอม วิษณุยะ เทวะตา อิทธิโย อัญชะลียายะคุณังพิธีปูชิตตะวา อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ ปักการา ปักการะกาเรติ สัมผัสโส สัมผัสสะ กายะยานัง เทวะ มะนุสสานัง อัญชะลียายะ นมัสศิกา ปูชิตตะวา อิสวาสุ(บทสวดของหลวงพ่อผาด)
-โอม มะมุต มหามุต ข้าพญาครุฑจะเดินหน ฝูงนาคาจงถอยไปให้พ้น ข้าจะเสกด้วยนะโมพุทธายะ นะชาลีติ ปู่ก้าวเสด็จก๋า สิทธัตถะฯ
- พญาครุฑเจ้าเอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง ข้าอยู่แล้วไง ขอให้ช่วยได้งานการเงินการทองทุกอย่าง ขอมากๆหน่อย จะได้เลี้ยงคอหอย ด้วยนะโมพุทธายะ นะชาลีติฯ
-อะหังครุฑโธ อาคะโต อัสสะมิ นาคะราเช อัปเปหิ อุทธังนาโค เหฏโฐ ครุฑพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังอิติ
-โอม วิรุณปักสา กะรันกะตา พิธีปูชา อาคัทฉายะ อาคัทฉาหิ เอหิมามา นะโม พุทธายะ
-คะรุปิจะ กิติมันตัง มะ อะ อุ
โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย
นะ ได้เงิน นะ ได้ทอง นะ ได้ทรัพย์
นะ เมตตานะ ล้างอาถรรพ์
นะ เจริญ นะ มั่นคง อธิฐามิ. (บทหลัก)
-คะรุปิจะ กิติมันตัง มะ อะ อุ
โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย
นะได้เงิน นะได้ทอง นะเจริญ
นะมั่นคง นะได้ทรัพย์ นะเมตตา
อิติปิโสภะคะวาพระพุทธเจ้าสั่งมา
พญาครุฑล้างอาถรรพณ์
อิติคงเนื้อ อิติคงหนัง
พญาครุฑยันติ อภิปูยาจามิ
พญาครุฑจะผุด มนุษย์จะเกิด
พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด องค์พระพุทธเจ้าย่างบาท นะปัจจะโยโหนตุ
(ใช้สวดตอนอัญเชิญเป็นครั้งแรก)
-พุทโธอิติสุคะโต นะโมพุทธายะ ข้าพเจ้าขออัญเชิญพญาครุฑกำลังแผ่นดินจงคุ้มครองข้า(บอกชื่อและนามสกุล) เจริญโชคมั่งมีศรีสุขลาภผลพูนทวีอยู่เย็นเป็นสุข ขออำนาจพญาครุฑจงล้างอาถรรพ์ขจัดทุกข์โศก โรคภัยเสนียดอัปมงคลให้หายสิ้นไป ขออำนาจพญาครุฑกำลังแผ่นดินจงคุ้มครองครอบครัวของข้าพเจ้า ให้เจริญร่ำรวยด้วยอำนาจของ อุกาสะ มะ อะ อุ พุทโธนะโมพุทธายะ เทอญฯ
(พระคาถาพญาครุฑกำลังแผ่นดิน ของวัดสุทธาราม)
- โอม นะโมวิโลโค วิลูคะรี นะตีอูรู นะมัตเตร ฮีเรคารัมมาตู
-กาละพานะ ปิปปะสะอุ อุตมังลาหิ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ
-นะคะ ครุฑธา ประรายันติ นะมหาอำนาจ นะระงับดับโทโส โมละลาย พุทธทำลายจิต ธาให้ลุ่มหลง ยะให้กูรักสวาหะ นะโมพุทธายะ
-โอม...ตัตปุรุษชายะ วิทมะเห สุวรรณะภูชายะ ธีมะฮีห์ ตันโณ การุดัฟ ประโจทะยาต
(บทสวดของอินเดีย)
-โอมพญาครุฑจะเห็นผลหลีกไปให้พ้น พญาหนจะเดินทาง เคาะงอ เคาะงอ
-โอม คะรุทา โอม คะรุทา โอม คะรุทา
"ครุฑโธ ครุฑธา ปฏิเสวามิ"
(เป็นคาถาที่ใช้ฤทธิ์ขององค์พญาครุฑ ให้สวด ๓ จบ จะใช้ก็เมื่อถึงเวลาคับขัน )
***** การจุดธูปบูชาองค์พญาครุฑ จะกระทำการเพียงแค่ครั้งแรกเท่านั้นเพราะ "กลิ่นของธูปมันหอมแค่บนโลกมนุษย์ มันไปไม่ถึงบนสรวงสวรรค์